ผู้‍วินิจ‌ฉัย-20

(พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 การสงครามต่อสู้คนเบนยามิน คนอิสราเอลทั้งหมดตั้งแต่ดานถึงเบเออร์เชบา ทั้งแผ่นดินกิเลอาดก็ออกมา ชุมนุมชนนั้นได้ประชุมกันเป็นใจเดียวกันต่อพระเจ้าที่ เมืองมิสปาห์
  • 2 หัวหน้าประชาชนทั้งสิ้นคือของเผ่าคนอิสราเอลทั้งหมด เข้ามาปรากฏตัวในที่ประชุมแห่งประชากรของพระเจ้า มีทหารราบถือดาบสี่แสนคน
  • 3 (ครั้งนั้นคนเบนยามินได้ยินว่า คนอิสราเอลได้ขึ้นไปยังมิสปาห์) ประชาชนอิสราเอลกล่าวว่า “ขอบอกเรามาว่า เรื่องชั่วร้ายนี้เกิดขึ้นมาอย่างไรกัน”
  • 4 คนเลวีซึ่งเป็นสามีของหญิงผู้ที่ถูกฆ่านั้นกล่าวตอบว่า “ข้าพเจ้าและภรรยาน้อยของข้าพเจ้ามาถึงเมืองกิเบอาห์ ซึ่งเป็นเมืองเบนยามิน เพื่อจะค้างคืนที่นั่น
  • 5 เวลากลางคืนผู้ชายใน เมืองกิเบอาห์ก็ลุกขึ้นล้อมบ้านที่ข้าพเจ้าพักอยู่ เขาหมายจะฆ่าข้าพเจ้าเสีย เขาข่มขืนภรรยาน้อยของข้าพเจ้าจนตาย
  • 6 ข้าพเจ้าจึงนำศพนางมาฟันออกเป็นท่อนๆ ส่งไปทั่วประเทศที่เป็นมรดกของอิสราเอล เพราะเกิดการอนาจารและลามกในอิสราเอลขึ้นแล้ว
  • 7 ดูเถิด ท่านผู้เป็นคนอิสราเอลทั้งหลาย จงให้คำปรึกษาและความเห็น ณ ที่นี่เถิด”
  • 8 ประชาชนทุกคนก็ลุกขึ้นกล่าวเป็นใจเดียวกันว่า “พวกเราจะไม่กลับไปเต็นท์ของเรา เราจะไม่กลับไปเรือนของเรา
  • 9 แต่เราจะกระทำกับกิเบอาห์ดังนี้ เราจะจับฉลากยกขึ้นไปสู้รบกับเขา
  • 10 เราจะเลือกคนอิสราเอลทุกเผ่าคัดเอาร้อยละสิบคน พันละร้อย หมื่นละพันให้ไปหาเสบียงอาหาร มาให้ประชาชน เพื่อเขาทั้งหลายจะตอบสนองความชั่วลามก ซึ่งพวกกิเบอาห์กระทำขึ้นในอิสราเอล เมื่อเขาทั้งหลายมาถึงเมืองกิเบอาห์ของเผ่าเบนยามิน”
  • 11 คนอิสราเอลทั้งปวงก็ร่วมยกไปสู้เมืองนั้นเป็น พรรคพวกใจเดียวกัน
  • 12 เผ่าคนอิสราเอลก็ส่งคนไปทั่วเผ่าคน เบนยามินบอกว่า “ทำไมการชั่วช้านี้จึงเกิดขึ้นมาได้ในหมู่พวกท่าน
  • 13 เหตุฉะนั้นจงมอบชายอันธพาลในเมืองกิเบอาห์ มาให้เราประหารชีวิตเสีย จะได้กำจัดความชั่วเสียจากคนอิสราเอล” แต่คนเบนยามิน ไม่ยอมฟังเสียงคนอิสราเอลพี่น้องของตน
  • 14 คนเบนยามินก็ออกมาจากบรรดาหัวเมืองเข้า ไปสู่กิเบอาห์พร้อมกัน เพื่อยกออกไปกระทำสงครามกับคนอิสราเอล
  • 15 คราวนั้นคนเบนยามินรวมจำนวนทหารถือดาบออกจาก บรรดาหัวเมืองได้สองหมื่นหกพันคน นอกจากชาวเมืองกิเบอาห์ ซึ่งนับทหารที่คัดเลือกแล้วได้เจ็ดร้อยคน
  • 16 ในจำนวนทั้งหมดนี้มีคนที่คัดเลือกแล้วเจ็ดร้อยคน ถนัดมือซ้ายทุกคนเอาสลิงเหวี่ยงก้อนหินให้ถูกเส้นผมได้ ไม่ผิดเลย
  • 17 จำนวนคนอิสราเอลที่ถือดาบ ไม่นับคนเบนยามินได้สี่แสนคนเหล่านี้เป็นทหารทุกคน
  • 18 คนอิสราเอลก็ลุกขึ้นไปยังเมืองเบธเอล และทูลถามพระเจ้าว่า “ผู้ใดในพวกข้าพระองค์ที่จะขึ้นไปสู้รบกับคน เบนยามินก่อน” พระเจ้าตรัสว่า “ให้ยูดาห์ขึ้นไปก่อน”
  • 19 รุ่งเช้าคนอิสราเอลก็ลุกขึ้นตั้งค่ายต่อสู้เมืองกิเบอาห์
  • 20 คนอิสราเอลออกไปสู้รบกับคนเบนยามิน และคนอิสราเอลได้วางพลเรียงรายต่อสู้เขาที่เมืองกิเบอาห์
  • 21 ในวันนั้นคนเบนยามินออกมาจากเมืองกิเบอาห์ ฆ่าฟันคนอิสราเอลล้มตายสองหมื่นสองพันคน
  • 22 แต่คนอิสราเอลยังหนุนใจกันและวางพลเรียงรายในที่ซึ่งเขา วางพลในวันแรก
  • 23 และคนอิสราเอลก็ขึ้นไปร้องไห้ คร่ำครวญต่อพระเจ้าจนถึงเวลาเย็น เขาทั้งหลายทูลถามพระเจ้าว่า “สมควรที่ข้าพระองค์จะเข้าประชิดรบกับคนเบนยามิน พี่น้องของข้าพระองค์หรือไม่” พระเจ้าตรัสว่า “ไปสู้เขาเถิด”
  • 24 คนอิสราเอลจึงยกเข้าประชิดคนเบนยามินในวันที่สอง
  • 25 และในวันที่สองนั้นเบนยามินก็ยกออกไปจากกิเบอาห์ ฆ่าฟันคนอิสราเอลตายอีกหนึ่งหมื่นแปดพันคน ทุกคนเป็นทหารถือดาบ
  • 26 แล้วบรรดาคนอิสราเอลคือกองทัพทั้งหมด ได้ขึ้นไปที่เบธเอลและร้องไห้คร่ำครวญ เขานั่งเฝ้าพระเจ้า และอดอาหารจนเวลาเย็น ถวายเครื่องเผาบูชาและศานติบูชาแด่พระเจ้า
  • 27 คนอิสราเอลจึงทูลถามพระเจ้า (เพราะในสมัยนั้น หีบพันธสัญญาของพระเจ้าอยู่ที่นั่น
  • 28 และฟีเนหัสบุตรเอเลอาซาร์ ผู้เป็นบุตรอาโรน ก็ปรนนิบัติอยู่หน้าหีบนั้นในสมัยนั้น) เขาทูลถามว่า “สมควรที่ข้าพระองค์จะยังยกไปสู้รบกับ เบนยามินพี่น้องของข้าพระองค์อีกครั้งหนึ่ง หรือควรจะหยุดเสีย” และพระเจ้าตรัสว่า “จงยกขึ้นไปเถิด เพราะว่า พรุ่งนี้เราจะมอบเขาไว้ในมือของเจ้า”
  • 29 ดังนั้น อิสราเอลจึงซุ่มคนไว้รอบเมืองกิเบอาห์
  • 30 และประชาชนอิสราเอลก็ขึ้นไปสู้รบ กับคนเบนยามินในวันที่สาม และวางพลไว้ต่อสู้เมืองกิเบอาห์อย่างคราวก่อน
  • 31 คนเบนยามินก็ยกออกมาสู้รบกับประชาชน ถูกลวงให้ห่างออกไปจากตัวเมือง เขาก็เริ่มฆ่าฟันประชาชนอย่างคราวก่อนคือตามถนน ซึ่งสายหนึ่งไปเบธเอล อีกสายหนึ่งไปกิเบอาห์และที่ กลางทุ่งแจ้งอิสราเอลล้มตายประมาณสามสิบคน
  • 32 คนเบนยามินกล่าวกันว่า “เขาแพ้เราอย่างคราวก่อน” แต่คนอิสราเอลว่า “ให้เราถอย นำเขาออกห่างจากเมืองไปถึงถนนหลวง”
  • 33 คนอิสราเอลทั้งหมดก็ลุกออกจาก ที่ของตนเรียงรายเข้าไปที่บาอัลทามาร์ ส่วนคนอิสราเอลที่คอยซุ่มอยู่ก็ออกจาก ที่ของตนใกล้เมืองเกบา
  • 34 มีทหารอิสราเอลที่คัดเลือกแล้วหนึ่งหมื่นคนรุกเข้า เมืองกิเบอาห์ การสงครามกำลังทรหด คนเบนยามินไม่ทราบว่าเหตุร้ายกำลังมาใกล้ตนแล้ว
  • 35 พระเจ้าทรงให้คนเบนยามินพ่ายแพ้คนอิสราเอล ในวันนั้นคนอิสราเอลทำลายคนเบนยามินเสียสอง หมื่นห้าพันหนึ่งร้อยคน ทุกคนเหล่านี้เป็นทหารถือดาบ
  • 36 ดังนั้นเบนยามินจึงเห็นว่า เขาแพ้แล้วคนอิสราเอลทำเป็นล่าถอยต่อเบนยามิน เพราะเขาวางใจคนที่เขาให้ซุ่มอยู่รอบเมืองกิเบอาห์
  • 37 คนที่ซุ่มอยู่ก็รีบรุกเข้าไปในเมืองกิเบอาห์ ทหารที่ซุ่มอยู่นั้นก็รุกออกมาประหารเมืองนั้นเสียด้วยคมดาบ
  • 38 คนอิสราเอลและคนที่ซุ่มซ่อนอยู่นัดให้อาณัติสัญญาณว่า ถ้าเห็นควันกลุ่มใหญ่พลุ่งขึ้นมาจากในเมือง
  • 39 ก็ให้คนอิสราเอลหันกลับเข้ามารบ ฝ่ายเบนยามินได้เริ่มฆ่าคนอิสราเอลได้สัก สามสิบคนก็พูดว่า “เขาต้องล้มตายต่อหน้าเราอย่างคราวก่อนแน่แล้ว”
  • 40 แต่อาณัติสัญญาณเป็นควันไฟลุกพลุ่งขึ้นมาจากในเมือง คนเบนยามินก็เหลียวหลังมาดู ดูเถิด ทั้งเมืองก็มีควันพลุ่งขึ้นถึงท้องฟ้า
  • 41 คนอิสราเอลก็หันกลับ คนเบนยามินก็ท้อแท้ เพราะเขาเห็นว่าเหตุร้ายมาใกล้เขาแล้ว
  • 42 เขาจึงหันหลังให้คนอิสราเอลหนีเข้าไปทาง ถิ่นทุรกันดาร แต่สงครามติดตามเขาไปอย่างหนัก คนที่ออกมาจากเมืองก็ทำลายเขาที่อยู่ท่ามกลาง
  • 43 เขาทั้งหลายล้อมคนเบนยามิน และขับไล่เขาไปและทันเขาที่ที่เขาหยุดพัก จนไปถึงที่ตรงข้ามเมืองกิเบอาห์ทางตะวันออก
  • 44 คนเบนยามินล้มตายหนึ่งหมื่นแปดพันคน ทุกคนเป็นทแกล้วทหาร
  • 45 เขาก็หันกลับหนีเข้าไปในถิ่นทุรกันดารถึงศิลาริมโมน คนอิสราเอลฆ่าเขาตายตามถนนห้าพันคน และติดตามอย่างกระชั้นชิดไปถึงกิโดม และฆ่าเขาตายสองพันคน
  • 46 คนเบนยามินที่ล้มตายในวันนั้น เป็นทหารถือดาบสองหมื่นห้าพันคนทุกคนเป็นทแกล้วทหาร
  • 47 แต่มีทหารหกร้อยคนหันกลับหนี เข้าไปในถิ่นทุรกันดารถึงศิลาริมโมน และไปอาศัยอยู่ที่ศิลาริมโมนสี่เดือน
  • 48 คนอิสราเอลก็หันกลับไปสู้คนเบนยามินอีก และได้ประหารเขาเสียด้วยคมดาบทั้งชาวเมือง และฝูงสัตว์และบรรดาสิ่งที่เขาเห็น ยิ่งกว่านั้นบรรดาเมืองที่เขาพบเขาก็เอาไฟเผาเสียทั้งหมด
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页