1
พระเยซูทรงเป็นใหญ่กว่าโมเสส เหตุฉะนั้น ดูก่อนท่านพี่น้องธรรมิกชน ผู้ตอบสนองด้วยกันกับเราในการที่พระเจ้าทรงเรียก จงนึกถึงอัครทูตและมหาปุโรหิตผู้ซึ่งเราเชื่อและรับนั้น คือพระเยซู2
พระองค์ทรงซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าผู้ได้ทรงแต่งตั้งพระองค์ไว้ เหมือนอย่างโมเสสซื่อสัตย์ต่อชุมนุมชน อันเป็นครอบครัวของพระเจ้า กดว. 12:73
แต่ถึงกระนั้นพระเยซูก็ทรงได้รับพระเกียรติมากกว่าโมเสสมากนัก เช่นเดียวกับต้นตระกูลย่อมมีเกียรติมากกว่าครอบครัว4
ด้วยว่าทุกครอบครัวต้องมีต้นตระกูล แต่ว่าต้นเหตุของสรรพสิ่งทั้งปวงก็คือพระเจ้า5
ในชุมนุมชนอันเป็นครอบครัวของพระเจ้า โมเสสนั้นซื่อสัตย์ในฐานะผู้รับใช้เพื่อเป็นพยานในเรื่องต่างๆ ซึ่งพระเจ้าจะตรัสในภายหลัง6
แต่พระคริสต์นั้นทรงซื่อสัตย์ในฐานะพระบุตร ที่ทรงอำนาจเหนือชุมนุมชนอันเป็นครอบครัวของพระเจ้า และเราทั้งหลายเป็นครอบครัวนั้นแหละ หากเราจะยึดความกล้าหาญและความภูมิใจในความหวังนั้นไว้7
การพำนักของชนชาติของพระเจ้า เหตุฉะนั้น ตามที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัสว่าวันนี้ถ้าท่านทั้งหลายฟังพระสุรเสียงของพระองค์8
อย่าให้จิตใจของท่านดื้อรั้นอย่างในครั้งกบฏนั้นเหมือนอย่างในวันที่ทดลองในถิ่นทุรกันดาร9
ซึ่งบรรพบุรุษของท่านทดลองเราโดยเอาเราเข้าพิสูจน์ถึงแม้ว่าเขาเห็นการกระทำของเราตลอดสี่สิบปี10
เพราะเหตุนั้นเราจึงพิโรธคนเหล่านั้นและว่า “ใจของเขาหลงผิดอยู่เสมอ เขาไม่รู้จักทางของเรา”11
ตามที่เราปฏิญาณด้วยความพิโรธว่า“เขาจะไม่ได้เข้าสู่การพำนักซึ่งเราจัดให้” สดด. 95:7-1112
ดูก่อน ท่านพี่น้องทั้งหลาย จงระวังให้ดี เพื่อจะไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดในพวกท่านมีใจชั่วและไม่เชื่อ คือใจซึ่งพาท่านหลงไปจากพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์13
ท่านจงเตือนสติกันและกันทุกวัน ตลอดเวลาที่เรียกว่า “วันนี้” เพื่อว่าจะไม่มีผู้ใดในพวกท่านมีใจแข็งกระด้างไป เพราะเล่ห์กลของบาป14
เพราะเรามีส่วนร่วมกับพระคริสต์ ถ้าเราเพียงแต่ยึดความไว้วางใจที่เรามีอยู่ ในตอนต้นไว้ให้มั่นคงจนถึงที่สุด15
เมื่อมีคำกล่าวไว้ว่าวันนี้ถ้าท่านทั้งหลายจะฟังพระสุรเสียงของพระองค์อย่าให้จิตใจของท่านดื้อรั้นอย่างในครั้งกบฏนั้น สดด. 95:7-816
ใครหนอที่ได้ยินแล้วแต่ยังได้กบฏก็คือ ทุกคนที่โมเสสได้นำออกจากประเทศอียิปต์มิใช่หรือ17
และใครหนอที่พระองค์ได้ทรงพระพิโรธตลอดสี่สิบปีนั้น ก็คนเหล่านั้นที่กระทำบาป และซากศพของเขาทิ้งอยู่ในถิ่นทุรกันดารมิใช่หรือ18
และแก่ใครหนอที่พระองค์ได้ทรงปฏิญาณว่า เขาจะไม่ได้เข้าสู่การพำนักซึ่งพระองค์ทรงประทาน ก็คนเหล่านั้นที่ไม่เชื่อฟังมิใช่หรือ กดว. 14:1-3519
ฉะนั้นเราจึงรู้ว่า เขาไม่สามารถเข้าไปสู่การพำนักนั้นได้ก็เพราะเขาไม่ได้เชื่อ