1
“ท่านทั้งหลายอย่านำวัวผู้หรือแกะที่มีตำหนิหรือส่วน พิการใดๆ เป็นเครื่องบูชาแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน เพราะเป็นการที่พึงรังเกียจแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน2
“ในเมืองของท่านทั้งหลายซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้า ของท่านประทานแก่ท่านนั้น ถ้ามีชายหรือหญิงคนใดกระทำ สิ่งที่ชั่วต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน โดยละเมิดพันธสัญญาของพระองค์3
และไปปรนนิบัติพระอื่น และนมัสการพระเหล่านั้น อพย. 22:20 หรือดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ หรืออันใดที่เป็นบริวารท้องฟ้าซึ่ง ข้าพเจ้าได้ห้ามไว้4
มีคนเขาบอกท่านแล้วและท่านก็ได้ยิน ท่านทั้งหลายจงอุตส่าห์สืบสวน และถ้าเป็นความจริงและประจักษ์ว่า สิ่งพึงรังเกียจนั้นมีคนกระทำกันในอิสราเอล5
ท่านจงนำชายหรือหญิง ผู้กระทำสิ่งที่ชั่วร้ายนั้นมาที่ประตูเมือง และท่านจงเอาหินขว้างชายหรือหญิงนั้นเสียให้ตาย6
ผู้ที่ถูกกล่าวโทษถึงตายนั้น ให้มีพยานสองหรือสามปาก ยืนยันว่าผู้นั้นมีความผิด จึงให้ปรับโทษถึงตายได้ อย่าลงโทษผู้ใดถึงตายด้วยพยานปาก เดียว กดว. 35:30; ฉธบ. 19:15; มธ. 18:16;2 คร. 13:1;1 ทธ. 5:19; ฮบ. 10:287
ผู้ที่เป็นพยานต้องลงมือก่อน ในการทำโทษเขาถึงตาย ต่อไปคนทั้งปวงจึงร่วมมือด้วยกัน ทั้งนี้เพื่อท่านทั้งหลายจะกำจัดความชั่วเสียจากท่ามกลาง ท่าน 1 คร. 5:138
“ถ้าคดีใดเกิดขึ้นเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินได้ว่า เป็นคดีฆ่าคนตายโดยเจตนาหรือไม่ เป็นคดีเกี่ยวด้วยการเกี่ยงกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ เป็นคดีทำร้ายร่างกาย เป็นคดีใดๆซึ่งโต้แย้งกันในเมืองของท่าน ท่านจงลุกขึ้นพากันไปยังสถานที่ ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงเลือกไว้9
จงไปหาคนเลวีซึ่งเป็นปุโรหิต และไปหาผู้พิพากษาประจำการในสมัยนั้น ท่านจงปรึกษาหารือกับเขา และเขาจะชี้แจงให้ท่านทราบถึงคำตัดสิน10
แล้วท่านจงกระทำตามซึ่งเขาชี้แจงแก่ท่าน จากสถานที่ซึ่งพระเจ้าทรงเลือกนั้น และท่านจงระวังกระทำตามทุกสิ่งซึ่งเขาแนะนำท่าน11
ท่านจงกระทำตามคำแนะนำซึ่งเขาให้แก่ท่าน และกระทำตามคำตัดสินซึ่งเขาได้สั่งท่าน ท่านทั้งหลายอย่าหันเหไปจากคำตัดสินซึ่งเขาชี้แจงแก่ท่าน อย่าหันไปทางขวามือหรือซ้ายมือ12
ผู้ใดที่ขัดขืนมิได้กระทำตาม คือ ไม่ได้เชื่อฟังปุโรหิตผู้ที่ยืนปรนนิบัติ พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านที่นั่น หรือเชื่อฟังผู้พิพากษาผู้นั้นต้องตาย ทั้งนี้เพื่อท่านทั้งหลายจะกำจัดความชั่วเสียจากอิสราเอล13
และประชาชนทั้งหลายจะได้ยินและยำเกรง และมิได้ขัดขืนต่อไปอีก14
การแนะนำเกี่ยวกับเรื่องกษัตริย์ “เมื่อท่านมาถึงแผ่นดินที่พระเยโฮวาห์พระเจ้า ของท่านประทานแก่ท่าน และท่านถือกรรมสิทธิ์อาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้น แล้วท่านจะกล่าวว่า ‘เราจะตั้งกษัตริย์ไว้เหนือเราเหมือนประชาชาติอื่นซึ่งอยู่รอบ เรา 1 ซมอ. 8:5’15
ก็จงตั้งผู้ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงเลือก ไว้ให้เป็นกษัตริย์เหนือท่าน คือตั้งผู้หนึ่งผู้ใดในพวกพี่น้องของท่านให้เป็นกษัตริย์เหนือท่าน ท่านอย่าตั้งคนต่างด้าวซึ่งมิใช่พี่น้องของท่านให้อยู่เหนือท่าน16
แต่ว่าอย่าให้ผู้นั้นมีม้าของตนเองมากเกินไป หรือเป็นเหตุให้ประชาชนกลับไปอียิปต์ เพื่อจะมีม้ามากๆ 1 พกษ. 10:28;2 พศด. 1:16; 9:28 เพราะพระเจ้าได้ตรัสกับท่านทั้งหลายแล้วว่า ‘เจ้าทั้งหลายจะไม่ได้กลับไปทางนั้นอีกเลย’17
และอย่าให้ผู้นั้นมีภรรยามาก เกรงว่าจิตใจของเขาจะหันเหไปเสีย 1 พกษ. 11:1-8 หรืออย่าให้มีเงินมีทองเป็นของตนอย่างมากมาย 1 พกษ. 10:14-22, 27;2 พศด. 1:15; 9:2718
“เมื่อผู้นั้นนั่งบัลลังก์ในราชอาณาจักรก็ให้ผู้นั้นคัดลอก กฎหมายนี้ไว้ในหนังสือเพื่อประโยชน์แก่ตนเองจากหนังสือ ที่ปุโรหิตคนเลวีรักษาอยู่นั้น19
ให้กฎหมายนั้นอยู่กับผู้นั้น และให้เขาอ่านอยู่เสมอตลอดชีวิตของตน เพื่อเขาจะได้เรียนรู้ที่จะยำเกรงพระเยโฮวาห์ พระเจ้าของเขา โดยรักษาถ้อยคำในกฎหมายนี้ และกฎเกณฑ์เหล่านี้และ กระทำตาม20
เพื่อว่าจิตใจของเขาจะมิได้พองขึ้นสูงกว่าพี่น้อง ของตน และเพื่อเขาเองจะมิได้หันเหจากพระบัญญัติไปทาง ขวามือหรือทางซ้ายมือ เพื่อเขาจะได้ปกครองราชอาณาจักรของเขาอยู่ได้นาน ทั้งตนเองและลูกหลานของตนในอิสราเอล