ยอห์น-9

(พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 พระเยซูทรงรักษาคนตาบอดแต่กำเนิด เมื่อพระองค์เสด็จดำเนินไปนั้น ทรงเห็นชายคนหนึ่งตาบอดแต่กำเนิด
  • 2 และพวกสาวกของพระองค์ทูลถามพระองค์ว่า “พระอาจารย์เจ้าข้า ใครได้ทำผิดบาป ชายคนนี้หรือบิดามารดาของเขา เขาจึงเกิดมาตาบอด”
  • 3 พระเยซูตรัสตอบว่า “มิใช่ว่าชายคนนี้หรือบิดามารดาของเขาได้ทำบาป แต่เขาเกิดมาตาบอด เพื่อให้พระราชกิจของพระเจ้าปรากฏในตัวเขา
  • 4 เราต้องกระทำพระราชกิจของพระองค์ผู้ทรงใช้เรามาเมื่อยังวันอยู่ เมื่อถึงกลางคืนไม่มีผู้ใดทำงานได้
  • 5 ตราบใดที่เรายังอยู่ในโลก เราเป็นความสว่างของโลก มธ. 5:14; ยน. 8:12”
  • 6 เมื่อตรัสดังนั้นแล้ว พระองค์ก็ทรงบ้วนน้ำลายลงที่ดิน แล้วทรงเอาน้ำลายนั้นทำเป็นโคลนทาที่ตาของคนตาบอด
  • 7 แล้วตรัสสั่งเขาว่า “จงไปล้างโคลนออกเสียในสระสิโลอัมเถิด” (สิโลอัมแปลว่า ใช้ไป) เขาจึงไปล้างแล้วกลับมาก็เห็นได้
  • 8 เพื่อนบ้านและบรรดาคนที่เคยเห็นชายคนนั้นเป็นคนขอทานมาก่อนก็พูดกันว่า “คนนี้ใช่ไหมที่เคยนั่งขอทาน”
  • 9 บางคนก็พูดว่า “ใช่คนนั้นแหละ” คนอื่นว่า “ไม่ใช่ แต่เขาเหมือนคนนั้น” ตัวเขาเองพูดว่า “ข้าพเจ้าคือคนนั้น”
  • 10 เขาทั้งหลายจึงถามเขาว่า “ตาของเจ้าหายบอดได้อย่างไร”
  • 11 เขาตอบว่า “ชายคนหนึ่งชื่อเยซูได้ทำโคลนทาตาของข้าพเจ้า และบอกข้าพเจ้าว่า ‘จงไปที่สระสิโลอัมแล้วล้างโคลนออกเสีย’ ข้าพเจ้าก็ได้ไปล้างตา จึงมองเห็นได้”
  • 12 เขาจึงถามว่า “ผู้นั้นอยู่ที่ไหน” คนนั้นบอกว่า “ข้าพเจ้าไม่ทราบ”
  • 13 พวกฟาริสีสอบสวนเรื่องการรักษาคนตาบอด เขาจึงพาคนที่แต่ก่อนตาบอดนั้นไปหาพวกฟาริสี
  • 14 วันที่พระเยซูทรงทำโคลนทาตาชายคนนั้นให้หายบอด เป็นวันสะบาโต
  • 15 พวกฟาริสีก็ได้ถามเขาอีกว่า ทำอย่างไรตาเขาจึงมองเห็น และเขาบอกคนเหล่านั้นว่า “เขาเอาโคลนทาตาของข้าพเจ้า และข้าพเจ้าก็ล้างออกแล้วจึงมองเห็น”
  • 16 พวกฟาริสีบางคนพูดว่า “ชายคนนี้ไม่ได้มาจากพระเจ้า เพราะเขามิได้รักษาวันสะบาโต” แต่คนอื่นพูดว่า “คนบาปจะทำหมายสำคัญเช่นนั้นได้อย่างไร” พวกเขาก็แตกแยกกัน
  • 17 เขาจึงพูดกับคนตาบอดอีกว่า “เจ้าคิดอย่างไรเรื่องคนนั้น ในเมื่อเขาได้ทำให้ตาของเจ้าหายบอด” ชายคนนั้นตอบว่า “ท่านเป็นผู้เผยพระวจนะ”
  • 18 พวกยิวไม่เชื่อว่าชายคนนั้นตาบอดและกลับมองเห็น จนกระทั่งเขาได้เรียกบิดามารดาของคนที่ตากลับมองเห็นได้นั้นมา
  • 19 แล้วถามว่า “ชายคนนี้เป็นบุตรของเจ้าหรือ ที่เจ้าบอกว่าตาบอดมาแต่กำเนิด ทำไมเดี๋ยวนี้เขาจึงมองเห็น”
  • 20 บิดามารดาของชายคนนั้นตอบว่า “ข้าพเจ้าทราบว่าคนนี้เป็นบุตรของข้าพเจ้า และทราบว่าเขาเกิดมาตาบอด
  • 21 แต่ไม่รู้ว่าทำไมเดี๋ยวนี้เขาจึงมองเห็น ใครทำให้ตาของเขาหายบอด ข้าพเจ้าก็ไม่ทราบ จงถามเขาเถิด เขาโตแล้ว เขาคงเล่าเรื่องของเขาเองได้”
  • 22 ที่บิดามารดาของเขาพูดอย่างนั้น ก็เพราะกลัวพวกยิวเพราะพวกยิวตกลงกันแล้วว่า ถ้าผู้ใดยอมรับว่าผู้นั้นเป็นพระคริสต์ จะต้องอเปหิผู้นั้นเสียจากธรรมศาลา
  • 23 เหตุฉะนั้นบิดามารดาของเขาจึงพูดว่า “เขาโตแล้ว ถามตัวเขาเองเถิด”
  • 24 คนเหล่านั้นจึงเรียกคนที่แต่ก่อนตาบอดนั้นมาหาเป็นครั้งที่สอง และบอกเขาว่า “จงสรรเสริญพระเจ้าเถิด เรารู้อยู่ว่าชายคนนั้นเป็นคนบาป”
  • 25 เขาตอบว่า “ท่านนั้นเป็นคนบาปหรือไม่ข้าพเจ้าไม่ทราบ สิ่งเดียวที่ข้าพเจ้าทราบ ก็คือว่าข้าพเจ้าเคยตาบอด แต่เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้ามองเห็นได้แล้ว”
  • 26 คนเหล่านั้นจึงถามเขาว่า “เขาทำอะไรกับเจ้าบ้าง เขาทำอย่างไรตาของเจ้าจึงหายบอด”
  • 27 ชายคนนั้นตอบเขาว่า “ข้าพเจ้าบอกท่านแล้วและท่านไม่ฟัง ทำไมท่านจึงอยากฟังอีก อยากเป็นสาวกของท่านผู้นั้นด้วยหรือ”
  • 28 และเขาทั้งหลายจึงเย้ยชายคนนั้นว่า “เอ็งเป็นศิษย์ของเขา แต่เราเป็นศิษย์ของโมเสส
  • 29 เรารู้ว่าพระเจ้าได้ตรัสกับโมเสส แต่คนนั้นเราไม่รู้ว่าเขามาจากไหน”
  • 30 ชายคนนั้นตอบว่า “เออ ช่างประหลาดจริงๆ ที่พวกท่านไม่รู้ว่าท่านผู้นั้นมาจากไหน แต่ท่านผู้นั้นก็ยังได้ทำให้ตาของข้าพเจ้าหายบอด
  • 31 พวกเรารู้ว่าพระเจ้ามิได้ฟังคนบาป แต่ถ้าผู้ใดยำเกรงพระเจ้า และกระทำตามพระทัยพระองค์ พระองค์ก็ทรงฟังผู้นั้น
  • 32 ตั้งแต่เริ่มมีโลกมาแล้ว ไม่เคยมีใครได้ยินว่า มีผู้ใดทำให้ตาของคนที่บอดแต่กำเนิดมองเห็นได้
  • 33 ถ้าท่านผู้นั้นไม่ได้มาจากพระเจ้าแล้วก็คงไม่สามารถทำได้”
  • 34 เขาทั้งหลายตอบคนนั้นว่า “เอ็งเกิดมาในการบาปทั้งนั้น และเอ็งจะมาสอนเราหรือ” แล้วเขาจึงอเปหิคนนั้นเสีย
  • 35 ความบอดของวิญญาณจิต พระเยซูทรงได้ยินว่าเขาได้อเปหิคนนั้นเสียแล้ว เมื่อพระองค์ทรงพบชายคนนั้นจึงตรัสกับเขาว่า “เจ้าวางใจในบุตรมนุษย์หรือ”
  • 36 ชายคนนั้นทูลตอบว่า “ท่านเจ้าข้า ผู้ใดเป็นบุตรมนุษย์ ซึ่งข้าพเจ้าจะวางใจในพระองค์ได้”
  • 37 พระเยซูตรัสกับเขาว่า “เจ้าได้เห็นท่านแล้ว ท่านผู้นั้นเองที่กำลังพูดอยู่กับเจ้า”
  • 38 เขาจึงทูลว่า “พระองค์เจ้าข้า ข้าพระองค์วางใจ” แล้วเขาก็กราบไหว้พระองค์
  • 39 พระเยซูตรัสว่า “เราเข้ามาในโลกเพื่อแก่การพิพากษา เพื่อให้คนทั้งหลายที่มองไม่เห็นกลับมองเห็น และคนที่มองเห็นกลับตาบอด”
  • 40 เมื่อพวกฟาริสีที่อยู่ใกล้พระองค์ได้ยินอย่างนั้น จึงกล่าวแก่พระองค์ว่า “เราตาบอดด้วยหรือ”
  • 41 พระเยซูตรัสกับเขาว่า “ถ้าพวกท่านตาบอดพวกท่านก็จะไม่มีความผิดบาป แต่บัดนี้ท่านพูดว่า ‘เรามองเห็น’ เหตุฉะนั้นความผิดบาปของท่านจึงยังมีอยู่
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页