ยอห์น-2

(พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 งานสมรสที่หมู่บ้านคานา วันที่สามมีงานสมรสที่หมู่บ้านคานาแคว้นกาลิลี และมารดาของพระเยซูก็อยู่ที่นั่น
  • 2 พระเยซูและสาวกของพระองค์ได้รับเชิญไปในงานนั้น
  • 3 เมื่อเหล้าองุ่น เครื่องดื่มที่ชาวปาเลสไตน์ดื่มกันเป็นประจำ แม้ว่าในพระคริสตธรรมคัมภีร์ไม่บัญญัติห้ามดื่มเหล้าองุ่น แต่ก็มีคำเตือน ไม่ให้ดื่มเหล้าองุ่นจนเกิดความเสียหายหมดแล้ว มารดาของพระเยซูทูลพระองค์ว่า “เขาไม่มีเหล้าองุ่น”
  • 4 พระเยซูตรัสกับนางว่า “หญิงเอ๋ย ให้เป็นธุระของข้าพเจ้าเถิด เวลาของข้าพเจ้ายังมาไม่ถึง”
  • 5 มารดาของพระองค์จึงบอกพวกคนใช้ว่า “จงกระทำตามที่ท่านสั่งเจ้าเถิด”
  • 6 มีโอ่งหินตั้งอยู่ที่นั่นหกใบตามธรรมเนียมการชำระของพวกยิว จุน้ำโอ่งละสี่ห้าถัง
  • 7 พระเยซูตรัสสั่งเขาว่า “จงตักน้ำใส่โอ่งให้เต็มเถิด” และเขาก็ตักน้ำเต็มโอ่งเสมอปาก
  • 8 แล้วพระองค์ตรัสสั่งเขาว่า “จงตักเอาไปให้เจ้าภาพเถิด” เขาก็เอาไปให้
  • 9 เมื่อเจ้าภาพชิมน้ำที่กลายเป็นเหล้าองุ่นแล้ว และไม่รู้ว่ามาจากไหน (แต่คนใช้ที่ตักน้ำนั้นรู้) เจ้าภาพจึงเรียกเจ้าบ่าวมา
  • 10 และพูดกับเขาว่า “ใครๆเขาก็เอาเหล้าองุ่นอย่างดีมาให้ก่อน เมื่อได้ดื่มกันมากแล้วจึงเอาที่ไม่สู้ดีมา แต่ท่านเก็บเหล้าองุ่นอย่างดีไว้จนถึงบัดนี้”
  • 11 นี่เป็นการกระทำอันเป็นหมายสำคัญครั้งแรกของพระเยซู ทรงกระทำที่บ้านคานาแคว้นกาลิลี และได้ทรงสำแดงพระสิริของพระองค์ และสาวกของพระองค์ก็ได้วางใจในพระองค์
  • 12 ภายหลังเหตุการณ์นี้ พระองค์ก็เสด็จต่อไปยังเมืองคาเปอรนาอุม มธ. 4:13 พร้อมกับมารดาและน้องชายและสาวกของพระองค์ และอยู่ที่นั่นเพียงไม่กี่วันทรงชำระพระวิหาร
  • 13 ( มธ. 21:12-13 ; มก. 11:15-18 ; ลก. 19:45-46 ) เทศกาลปัสกา อพย. 12:1-27 เทศกาลของพวกยิว เพื่อระลึกถึง การที่พระเจ้าทรงช่วยกู้ชาติของตน ให้พ้นจากการเป็นทาสในอียิปต์ ของพวกยิวใกล้เข้ามาแล้ว พระเยซูเสด็จขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม
  • 14 ในบริเวณพระวิหารพระองค์ทรงเห็นคนขายวัว ขายแกะ ขายนกพิราบ และคนรับแลกเงินที่กำลังแลกเงินอยู่
  • 15 พระองค์ทรงเอาเชือกทำเป็นแส้ไล่คนเหล่านั้น พร้อมกับแกะและวัวออกไปจากบริเวณพระวิหาร และพระองค์ทรงเทเงินและคว่ำโต๊ะของคนรับแลกเงิน
  • 16 และพระองค์ตรัสแก่บรรดาคนขายนกพิราบว่า “จงเอาของเหล่านี้ไปเสีย อย่าทำพระนิเวศของพระบิดาเราให้เป็นแหล่งค้าขาย”
  • 17 พวกสาวกของพระองค์ก็ระลึกขึ้นได้ถึงคำที่เขียนไว้ว่า “ความร้อนใจในเรื่องพระนิเวศของพระองค์จะท่วมท้นข้าพระองค์ สดด. 69:9”
  • 18 พวกยิวจึงทูลพระองค์ว่า “ท่านจะแสดงหมายสำคัญอะไรให้เราเห็นว่า ท่านมีอำนาจกระทำการเช่นนี้ได้”
  • 19 พระเยซูจึงตรัสตอบเขาทั้งหลายว่า “ถ้าทำลายวิหารนี้เสีย เราจะยกขึ้นในสามวัน” มธ. 26:61; 27:40; มก. 14:58; 15:29
  • 20 พวกยิวจึงทูลว่า “พระวิหารนี้เขาสร้างถึงสี่สิบหกปีจึงสำเร็จ และท่านจะยกขึ้นใหม่ในสามวันหรือ”
  • 21 แต่พระวิหารที่พระองค์ตรัสถึงนั้นคือพระกายของพระองค์
  • 22 เหตุฉะนั้นเมื่อพระองค์ทรงถูกชุบให้เป็นขึ้นมาแล้ว พวกสาวกของพระองค์ก็ระลึกได้ว่าพระองค์ตรัสดังนี้ และเขาก็เชื่อพระคัมภีร์และพระดำรัสที่พระเยซูได้ตรัสแล้วนั้น
  • 23 พระเยซูทรงรู้จักมนุษย์ทุกคน เมื่อพระองค์ประทับ ณ กรุงเยรูซาเล็มในเทศกาลปัสกา มีคนเป็นอันมากได้วางใจในพระนามของพระองค์ เมื่อเขาได้เห็นหมายสำคัญที่พระองค์ได้ทรงกระทำ
  • 24 แต่พระเยซูมิได้ทรงวางพระทัยในคนเหล่านั้น
  • 25 เพราะพระองค์ทรงรู้จักมวลมนุษย์ และสำหรับพระองค์ไม่มีความจำเป็นที่จะมีพยานในเรื่องมนุษย์ ด้วยพระองค์เองทรงทราบว่าอะไรมีอยู่ในมนุษย์
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页