มา‌ระ‌โก-15

(พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 พระเยซูต่อหน้าปีลาตเจ้าเมือง ( มธ. 27:1-2 , 11-14 ; ลก. 23:1-5 ; ยน. 18:28-38 )พอรุ่งเช้า พวกมหาปุโรหิตกับพวกผู้ใหญ่และพวกธรรมาจารย์ และบรรดาสมาชิกสภาได้ปรึกษากัน แล้วจึงมัดพระเยซูพาไปมอบไว้แก่ปีลาต
  • 2 ปีลาตจึงถามพระองค์ว่า “ท่านเป็นกษัตริย์ของพวกยิวหรือ” พระองค์ตรัสตอบเขาว่า “ก็ท่านว่าแล้วนี่ หรือ ท่านว่าถูกแล้ว”
  • 3 ฝ่ายพวกมหาปุโรหิตได้ฟ้องกล่าวโทษพระองค์หลายประการ
  • 4 ปีลาตจึงถามพระองค์อีกว่า “ท่านไม่ตอบอะไรหรือ ดูแน่ะ เขากล่าวความปรักปรำท่านหลายประการทีเดียว”
  • 5 แต่พระเยซูมิได้ตรัสตอบประการใดอีก ปีลาตจึงอัศจรรย์ใจพระเยซูต้องคำพิพากษา ให้ถึงสิ้นพระชนม์
  • 6 ( มธ. 27:15-26 ; ลก. 23:13-25 ; ยน. 18:39-19:16 ) ในเทศกาลนั้นปีลาตเคยปล่อยนักโทษคนหนึ่งให้เขาตามที่เขาขอ
  • 7 มีคนหนึ่งชื่อบารับบัส ซึ่งต้องจำอยู่ในจำพวกคนกบฏ ผู้ที่ได้ฆ่าคนในการกบฏนั้น
  • 8 ประชาชนจึงได้ขึ้นไปขอปีลาตให้ทำตามที่ท่านเคยทำให้เขานั้น
  • 9 ปีลาตได้ถามเขาว่า “ท่านทั้งหลายปรารถนาจะให้เราปล่อยกษัตริย์ของพวกยิวหรือ”
  • 10 เพราะท่านรู้อยู่แล้วว่า พวกมหาปุโรหิตได้อายัดพระองค์ไว้ด้วยความอิจฉา
  • 11 แต่พวกมหาปุโรหิตยุยงประชาชนให้ขอปีลาต ปล่อยบารับบัสแทนพระเยซู
  • 12 ฝ่ายปีลาตจึงถามเขาว่า “ท่านทั้งหลายจะให้เราทำอย่างไรแก่คนนี้ ซึ่งท่านทั้งหลายเรียกว่ากษัตริย์ของพวกยิว”
  • 13 เขาทั้งหลายร้องตะโกนว่า “ตรึงเขาเสียที่กางเขนเถิด”
  • 14 ปีลาตจึงถามว่า “ตรึงทำไม เขาได้ทำผิดประการใด” แต่ประชาชนยิ่งร้องว่า “ตรึงเขาเสียที่กางเขนเถิด”
  • 15 ปีลาตปรารถนาจะเอาใจประชาชน จึงปล่อยบารับบัสให้เขา และเมื่อได้ให้โบยตีพระเยซูแล้ว ก็มอบให้เขาเอาไปตรึงไว้ที่กางเขนพวกทหารล้อเลียนพระเยซู
  • 16 ( มธ. 27:27-31 ; ยน. 19:2-3 ) พวกทหารจึงนำพระองค์ไปข้างในราชสำนัก (คือที่เรียกว่าศาลปรีโทเรียม) แล้วเรียกพวกทหารทั้งกองให้มาประชุมกัน
  • 17 เขาเอาเสื้อสีม่วงมาสวมพระองค์ เอาหนามสานเป็นมงกุฎสวมพระเศียรพระองค์
  • 18 แล้วคำนับพระองค์พูดว่า “กษัตริย์ของพวกยิวเจ้าข้า ขอทรงพระเจริญ”
  • 19 แล้วเขาได้เอาไม้อ้อตีพระเศียรพระองค์ และได้ถ่มน้ำลายรดพระองค์ แล้วคุกเข่าลงนมัสการพระองค์
  • 20 เมื่อเยาะเย้ยพระองค์แล้ว เขาถอดเสื้อสีม่วงนั้นออก แล้วเอาฉลองพระองค์สวมให้ และนำพระองค์ออกไปเพื่อจะตรึงเสียที่กางเขนการตรึงที่กางเขน
  • 21 ( มธ. 27:32-44 ; ลก. 23:26-43 ; ยน. 19:17-27 ) มีคนหนึ่งชื่อซีโมนชาวไซรีน เป็นบิดาของอเล็กซานเดอร์และรูฟัส รม. 16:13 เดินมาจากบ้านนอกตามทางนั้น เขาก็เกณฑ์ซีโมนให้แบกกางเขนของพระองค์ไป
  • 22 เขาพาพระองค์มาถึงตำบลหนึ่งชื่อกลโกธา (แปลว่ากะโหลกศีรษะ)
  • 23 แล้วเขาเอาเหล้าองุ่นระคนกับมดยอบให้พระองค์เสวย แต่พระองค์ไม่รับ
  • 24 เขาตรึงพระองค์ที่กางเขน แล้วเขาก็เอาฉลองพระองค์จับฉลากแบ่งปันกัน เพื่อจะรู้ว่าใครจะได้อะไร สดด. 22:18
  • 25 เมื่อเขาตรึงพระองค์ไว้นั้นเป็นเวลาเช้าสามโมง
  • 26 มีข้อหาที่ลงโทษพระองค์เขียนไว้ว่า “กษัตริย์ของพวกยิว”
  • 27 เขาเอาโจรสองคนตรึงไว้พร้อมกับพระองค์ ข้างขวาคนหนึ่งข้างซ้ายคนหนึ่ง [
  • 28 ต้องสำเร็จตามพระคัมภีร์ที่ว่า “ท่านถูกนับเข้ากับคนล่วงเกิน”] สำเนาต้นฉบับโบราณหลายฉบับ ขาดข้อ 28 อสย. 53:12
  • 29 ฝ่ายคนทั้งปวงที่เดินผ่านไปมานั้นก็กล่าวเหยียดหยามพระองค์ สั่นศีรษะเยาะเย้ย สดด. 22:7; 109:25ว่า “เฮ้ว เจ้าผู้จะทำลายพระวิหารและสร้างขึ้นในสามวันน่ะ มก. 14:58; ยน. 2:19
  • 30 จงช่วยตัวเองให้รอดและลงมาจากกางเขนเถิด”
  • 31 พวกมหาปุโรหิตกับพวกธรรมาจารย์ก็เยาะเย้ยพระองค์ ในระหว่างพวกเขาเองเหมือนกันว่า “เขาช่วยคนอื่นให้รอดได้ แต่ช่วยตัวเองไม่ได้
  • 32 ให้เจ้าพระคริสต์กษัตริย์แห่งอิสราเอลลงมาจากกางเขนเดี๋ยวนี้เถอะ เพื่อเราจะได้เห็นและเชื่อ” และสองคนนั้นที่ถูกตรึงไว้กับพระองค์ก็กล่าวคำหยาบช้าต่อพระองค์มรณกรรมของพระเยซู
  • 33 ( มธ. 27:45-56 ; ลก. 23:44-49 ; ยน. 19:28-30 ) ครั้นเวลาเที่ยงก็บังเกิดมืดมัวทั่วแผ่นดินจนถึงบ่ายสามโมง
  • 34 พอบ่ายสามโมงแล้ว พระเยซูทรงร้องเสียงดังว่า “เอโลอี เอโลอี ลามา สะบักธานี” แปลว่า “พระเจ้าของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ไฉนทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย” สดด. 22:1
  • 35 บางคนที่ยืนอยู่ที่นั่นเมื่อได้ยินก็พูดว่า “ดูเถิดเขาเรียกเอลียาห์”
  • 36 มีคนหนึ่งวิ่งไปเอาฟองน้ำชุบเหล้าองุ่นเปรี้ยวเสียบปลายไม้อ้อ ส่งให้พระองค์เสวย สดด. 69:21แล้วว่า “ให้เราคอยดูว่า เอลียาห์จะมาปลดเขาลงหรือไม่”
  • 37 ฝ่ายพระเยซูทรงร้องเสียงดังแล้วก็สิ้นพระชนม์
  • 38 ขณะนั้นม่าน อพย. 26:31-33ในพระวิหารก็ขาดออกเป็นสองท่อนตั้งแต่บนตลอดล่าง
  • 39 ส่วนนายร้อยที่ยืนอยู่ตรงพระพักตร์พระองค์ เมื่อเห็นว่าพระองค์สิ้นพระชนม์อย่างนั้นแล้ว จึงพูดว่า “แท้จริงท่านผู้นี้เป็นพระบุตรของพระเจ้า”
  • 40 มีพวกผู้หญิงมองดูอยู่แต่ไกล ในพวกผู้หญิงนั้นมีมารีย์ชาวมักดาลา มารีย์มารดาของยากอบน้อยและของโยเสส และนางสะโลเม
  • 41 ผู้หญิงเหล่านั้นได้ติดตามและปรนนิบัติพระองค์ ลก. 8:2-3 เมื่อพระองค์ยังอยู่ในแคว้นกาลิลี และผู้หญิงอื่นอีกหลายคนที่ได้ขึ้นมายังกรุงเยรูซาเล็มกับพระองค์ ได้อยู่ที่นั่นการฝังพระศพพระเยซู
  • 42 ( มธ. 27:57-61 ; ลก. 23:50-56 ; ยน. 19:38-42 ) ครั้นถึงเวลาพลบค่ำ เหตุที่วันนั้นเป็นวันเตรียม คือวันก่อนวันสะบาโต
  • 43 โยเซฟเป็นชาวบ้านอาริมาเธีย ซึ่งอยู่ในพวกสมาชิกสภาและเป็นที่นับถือของคนทั้งปวง ทั้งกำลังคอยท่าแผ่นดินของพระเจ้าด้วย จึงกล้าเข้าไปหาปีลาตขอพระศพพระเยซู
  • 44 ปีลาตก็ประหลาดใจที่พระเยซูสิ้นพระชนม์แล้ว จึงเรียกนายร้อยมาถามว่า ตายแล้วหรือ
  • 45 เมื่อได้รู้เรื่องจากนายร้อยแล้ว ท่านจึงมอบพระศพให้แก่โยเซฟ
  • 46 ฝ่ายโยเซฟได้ซื้อผ้าป่าน และเชิญพระศพลงมาเอาผ้าป่านพันหุ้มไว้ แล้วเชิญพระศพไปประดิษฐานไว้ในอุโมงค์ซึ่งได้สกัดไว้ในศิลา แล้วกลิ้งก้อนหินปิดปากอุโมงค์ไว้
  • 47 ฝ่ายมารีย์ชาวมักดาลา และมารีย์มารดาของโยเสสได้เห็นตำบลที่โยเซฟบรรจุพระศพไว้นั้น
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页