ปฐม‍กาล-21

(พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 กำเนิดของอิสอัค พระเจ้าทรงเยี่ยมซาราห์ตามที่พระองค์ตรัสไว้ และพระเจ้าทรงกระทำแก่ซาราห์ ดังที่พระองค์ทรงสัญญาไว้
  • 2 ซาราห์ก็ตั้งครรภ์ ฮบ. 11:11 และคลอดบุตรชายคนหนึ่งให้อับราฮัม เมื่อท่านชราตามเวลาซึ่งพระเจ้าได้ตรัสกับท่าน
  • 3 อับราฮัมตั้งชื่อบุตรชายที่เกิด ผู้ซึ่งซาราห์คลอดให้ท่านนั้นว่า อิสอัค
  • 4 แล้วอับราฮัมทำพิธีเข้าสุหนัต ให้แก่อิสอัคบุตรชายนั้นเมื่อมีอายุแปดวัน ปฐก. 17:12; กจ. 7:8 ดังที่พระเจ้าทรงบัญชาแก่ท่าน
  • 5 อับราฮัมมีอายุหนึ่งร้อยปีเมื่ออิสอัคบุตรชายเกิดแก่ท่าน
  • 6 นางซาราห์กล่าวว่า “พระเจ้าทรงกระทำให้ข้าพเจ้าหัวเราะ ทุกคนที่ได้ฟังจะพลอยหัวเราะด้วย”
  • 7 นางกล่าวอีกว่า “ใครจะพูดกับอับราฮัมได้ว่าซาราห์จะให้เด็กกินนม แต่ดิฉันก็ได้คลอดบุตรชายคนหนึ่งให้ท่านเมื่อท่านชราแล้ว”
  • 8 ฮาการ์และอิชมาเอลถูกขับไล่ เด็กนั้นก็เติบโตขึ้นและหย่านมและ อับราฮัมจัดการเลี้ยงใหญ่ในวันนั้นเมื่ออิสอัคหย่านม
  • 9 แต่ซาราห์เห็นบุตรชายของฮาการ์คนอียิปต์ ซึ่งนางคลอดให้อับราฮัม กำลังเล่นอยู่กับอิสอัคบุตรชาย
  • 10 นางจึงพูดกับอับราฮัมว่า “ไล่ทาสหญิงคนนี้กับบุตรชายของนางไปเสียเถิด เพราะว่าบุตรชายของทาสหญิงคนนี้จะเป็นผู้รับ มรดกร่วมกับอิสอัคบุตรชายของฉันไม่ได้” กท. 4:29-30
  • 11 อับราฮัมกลุ้มใจ เพราะเรื่องบุตรชายของท่าน
  • 12 แต่พระเจ้าตรัสกับอับราฮัมว่า “อย่ากลุ้มใจเพราะเรื่องเด็กนั้น และทาสหญิงของเจ้า ซาราห์ขออะไรก็จงยอมตามที่นางขอเถิด เพราะชื่อของเจ้าจะสืบต่อไปทางเชื้อสาย อิสอัค รม. 9:7; ฮบ. 11:18
  • 13 ส่วนบุตรชายของทาสหญิงนั้น เราจะกระทำให้เป็นชนชาติหนึ่งด้วย เพราะเขาเป็นพงศ์พันธุ์ของเจ้า”
  • 14 อับราฮัมจึงลุกขึ้นแต่เช้ามืด ให้ขนมปังและน้ำหนึ่งถุงหนังแก่ฮาการ์ ใส่บ่าให้นางพร้อมกับเด็กนั้นแล้วให้ออกจากบ้านไป นางก็จากไปและพเนจรไปในถิ่นทุรกันดารแห่งเบเออร์เชบา
  • 15 เมื่อน้ำในถุงหนังนั้นหมดแล้วนางก็วางเด็กนั้นไว้ ใต้พุ่มไม้แห่งหนึ่ง
  • 16 แล้วนางก็ไปนั่งอยู่ห่างออกไป ประมาณเท่ากับระยะลูกธนูตก เพราะนางพูดว่า “อย่าให้ข้าเห็นความตายของลูกเลย” ขณะที่นางนั่งอยู่แต่ไกล เด็กนั้นก็ตะเบ็งเสียงร้องไห้
  • 17 พระเจ้าทรงสดับเสียงร้องของเด็กนั้น และทูตของพระเจ้าจึงเรียกฮาการ์จากฟ้า กล่าวกับนางว่า “ฮาการ์ เจ้าเป็นอะไรไป อย่ากลัวเลยเพราะว่าพระเจ้าทรงสดับเสียงของเด็ก ณ ที่ที่เขาอยู่นั้นแล้ว
  • 18 ลุกขึ้นอุ้มเด็กนั้น เอามือจับเขาไว้ให้แน่น เพราะเราจะทำให้เขาเป็นชาติใหญ่ชาติหนึ่ง”
  • 19 แล้วพระเจ้าทรงเบิกตาของนาง นางก็เห็นบ่อน้ำแห่งหนึ่ง จึงไปเติมน้ำเต็มถุงหนัง และให้เด็กนั้นดื่ม
  • 20 พระเจ้าทรงสถิตกับเด็กนั้น เขาเติบโตขึ้น อาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดาร และเป็นนักธนู
  • 21 เขาอาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดารแห่งปาราน มารดาก็หาภรรยาคนหนึ่งจากประเทศอียิปต์ให้เขา
  • 22 พันธสัญญาระหว่างอับราฮัมกับอาบีเมเลค ครั้งนั้น อาบีเมเลค ปฐก. 26:26และฟีโคล์ผู้บัญชาการทหารของพระองค์ พูดกับอับราฮัมว่า “พระเจ้าทรงสถิตกับท่านในทุกสิ่งที่ท่านกระทำ
  • 23 เพราะฉะนั้น บัดนี้จงปฏิญาณในพระนามพระเจ้า ให้แก่เราที่นี่ว่า เจ้าจะไม่หักหลังเรา ลูกหลานของเรา หรือชาติพันธุ์ในอนาคตของเรา แต่ดังที่เราภักดีต่อเจ้า เจ้าจงภักดีต่อเราและต่อแผ่นดินซึ่งเจ้าอาศัยอยู่นี้”
  • 24 อับราฮัมก็ทูลว่า “ข้าพระบาทยอมปฏิญาณ”
  • 25 เมื่ออับราฮัมร้องทุกข์ต่ออาบีเมเลค เรื่องบ่อน้ำที่ข้าราชการของอาบีเมเลคยึดเอาไป
  • 26 อาบีเมเลคตรัสว่า “เราไม่รู้ว่าใครทำอย่างนี้ เจ้ามิได้บอกเรา เราก็ไม่รู้เรื่องจนวันนี้”
  • 27 อับราฮัมจึงนำแกะและโคมาถวายแก่อาบีเมเลค ทั้งสองฝ่ายก็ทำพันธสัญญากัน
  • 28 อับราฮัมได้แยกลูกแกะตัวเมียจากฝูงไว้ต่างหากเจ็ดตัว
  • 29 อาบีเมเลคตรัสถามอับราฮัมว่า “ลูกแกะตัวเมียเจ็ดตัวที่เจ้าแยกไว้ต่างหากนั้น หมายความว่าอะไร”
  • 30 ท่านทูลว่า “ขอฝ่าพระบาทรับลูกแกะตัวเมียเจ็ดตัวนี้จากมือข้าพระบาท เพื่อฝ่าพระบาทจะได้เป็นพยานแก่ข้าพระบาทว่า ข้าพระบาทได้ขุดบ่อน้ำนี้”
  • 31 เหตุฉะนี้เขาจึงเรียกที่นั้นว่า เบเออร์เชบา แปลว่า บ่อน้ำแห่งเจ็ด หรือบ่อน้ำแห่งคำสาบาน เพราะว่าทั้งสองได้สาบานปฏิญาณกันไว้
  • 32 เขากระทำพันธสัญญากันที่เบเออร์เชบาดังนี้แหละ แล้วอาบีเมเลคและฟีโคล์ผู้บัญชาการทหารของ พระองค์ก็กลับไปยังแคว้นชาวฟีลิสเตีย
  • 33 อับราฮัมปลูกต้นแทมริสก์ไว้ที่เบเออร์เชบา และนมัสการออกพระนามพระเยโฮวาห์ พระเจ้านิรันดร์ที่นั่น
  • 34 อับราฮัมอาศัยอยู่ในแคว้นชาวฟีลิสเตียหลายวัน
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页