1 ซา‌มู‌เอล-17

(ฉบับมาตรฐาน 2011)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 ดาวิดกับโกลิอัท ส่วนพวกฟีลิสเตีย ก็รวบรวมกองทัพเพื่อจะทำสงคราม พวกเขามารวมกันอยู่ที่ตำบลโสโคห์ ซึ่งเป็นของยูดาห์ และตั้งค่ายอยู่ระหว่างตำบลโสโคห์กับตำบลอาเซคาห์ที่เอเฟสดัมมิม
  • 2 และซาอูลกับคนอิสราเอลก็รวมกัน และตั้งค่ายอยู่ที่หุบเขาเอลาห์ และวางแนวรบเพื่อต่อสู้กับพวกฟีลิสเตีย
  • 3 พวกฟีลิสเตียยืนอยู่ที่ภูเขาข้างหนึ่งและอิสราเอลยืนอยู่ที่ภูเขาอีกข้างหนึ่ง มีหุบเขาคั่นระหว่างพวกเขา
  • 4 มีชายคนหนึ่งชื่อโกลิอัทเป็นยอดทหาร ออกมาจากค่ายพวกฟีลิสเตีย เป็นชาวเมืองกัท สูง 3 เมตรกว่า
  • 5 เขาสวมหมวกทองสัมฤทธิ์ที่ศีรษะ และสวมเสื้อเกราะที่ทำเป็นเกล็ดๆ เสื้อเกราะนั้นหนักประมาณ 57 กิโลกรัมเป็นทองสัมฤทธิ์
  • 6 และสวมสนับแข้งทองสัมฤทธิ์ และมีทวนทองสัมฤทธิ์แขวนที่บ่า
  • 7 ส่วนด้ามหอกของเขานั้นเหมือนไม้กระพั่นทอผ้า ปลายหอกเป็นเหล็กหนักประมาณ 7 กิโลกรัม มีคนถือโล่นำหน้าเขา
  • 8 เขายืนตะโกนทางแนวรบของอิสราเอลว่า “พวกเจ้าออกมาเพื่อเตรียมทำสงครามทำไมเล่า? ข้าเป็นคนฟีลิสเตียไม่ใช่หรือ? พวกเจ้าก็เป็นข้ารับใช้ของซาอูลไม่ใช่หรือ? จงเลือกชายคนหนึ่งแทนพวกเจ้า ให้เขาลงมาหาข้า
  • 9 ถ้าเขาชนะในการต่อสู้และฆ่าข้าได้ พวกเราจะเป็นข้ารับใช้ของพวกเจ้า แต่ถ้าข้าชนะเขาและฆ่าเขาตาย แล้วพวกเจ้าจะเป็นข้ารับใช้ของพวกเรา และรับใช้พวกเรา”
  • 10 และคนฟีลิสเตียนั้นกล่าวว่า “วันนี้ข้าเองขอท้ากองทัพอิสราเอล จงส่งชายคนหนึ่งมาต่อสู้กัน”
  • 11 เมื่อซาอูลและคนอิสราเอลทั้งสิ้นได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ของคนฟีลิสเตียนั้น พวกเขาก็ตกใจและหวาดกลัวยิ่งนัก
  • 12 ดาวิดเป็นบุตรของชาวเอฟราธาห์คนหนึ่งแห่งเมืองเบธเลเฮมในยูดาห์ ชื่อเจสซี ผู้มีบุตรแปดคน ในรัชกาลของซาอูล ชายคนนี้เป็นคนมีอายุมากแล้ว
  • 13 บุตรชายใหญ่สามคนของเจสซีก็ตามซาอูลไปทำสงคราม ชื่อของบุตรชายสามคนที่ไปทำสงครามนั้นคือ บุตรหัวปีเอลีอับ คนที่สองอาบีนาดับ และคนที่สามชัมมาห์
  • 14 ดาวิดเป็นบุตรสุดท้อง พี่ชายทั้งสามคนก็ตามซาอูลไป
  • 15 แต่ดาวิดไปกลับระหว่างซาอูลกับการเลี้ยงแกะของบิดาที่เบธเลเฮม
  • 16 คนฟีลิสเตียคนนั้น เข้ามาใกล้ยืนท้าทั้งเช้าตรู่และเย็น 40 วัน
  • 17 เจสซีพูดกับดาวิดบุตรของตนว่า “นำข้าวคั่วนี้ 10 กิโลกรัม และขนมปังสิบก้อนนี้ ไปให้พวกพี่ชายของเจ้า จงไปหาพวกพี่ชายของเจ้าที่ค่ายเร็วๆ
  • 18 และจงนำเนยแข็งสิบชิ้นนี้ไปให้ผู้บังคับกองพันของพวกเขาด้วย ดูว่าพี่ชายของเจ้าทุกข์สุขอย่างไร แล้วรับของฝากมาจากพวกเขาบ้าง”
  • 19 ส่วนซาอูลกับพวกเขาและคนอิสราเอลทั้งปวง อยู่ที่หุบเขาเอลาห์สู้รบกับพวกฟีลิสเตียอยู่
  • 20 ดาวิดจึงลุกขึ้นแต่เช้ามืด และทิ้งแกะไว้กับผู้ดูแล นำเสบียงอาหารไปตามที่เจสซีบัญชาเขา และเขาก็มาถึงเขตค่าย ขณะเมื่อกองทัพกำลังยกออกไปแนวรบ โห่ร้องเพื่อทำสงคราม
  • 21 อิสราเอลกับพวกฟีลิสเตียต่างก็ตั้งแนวรบเผชิญหน้ากัน
  • 22 ดาวิดก็ทิ้งสัมภาระไว้กับผู้ดูแลกองสัมภาระ และวิ่งไปที่แนวรบไปทักทายพวกพี่ชายของตน
  • 23 เมื่อเขากำลังพูดกับพวกพี่ชาย นี่แน่ะ ยอดทหารฟีลิสเตียชาวเมืองกัท ที่ชื่อโกลิอัทออกมาจากแนวรบ ฟีลิสเตียกล่าวถ้อยคำท้าอย่างแต่ก่อนและดาวิดก็ได้ยิน
  • 24 เมื่อคนอิสราเอลทั้งปวงเห็นชายคนนั้นก็วิ่งหนีเขาไป และหวาดกลัวเขามาก
  • 25 คนอิสราเอลพูดว่า “พวกเจ้าเคยเห็นชายที่ออกมานั้นหรือ เขาออกมาท้าทายอิสราเอล ชายที่ฆ่าเขาได้ พระราชาจะประทานทรัพย์ให้เขามากมาย และจะมอบราชธิดาให้เขาและทำให้ครอบครัวของบิดาของเขารับการยกเว้นภาษีในอิสราเอล”
  • 26 และดาวิดกล่าวแก่พวกทหารที่ยืนอยู่ข้างเขาว่า “เขาจะทำอย่างไรแก่คนที่ฆ่าคนฟีลิสเตียคนนี้ได้ และนำเอาความเหยียดหยามไปจากอิสราเอล? คนฟีลิสเตียผู้ไม่ได้เข้าสุหนัตคนนี้คือใคร จึงมาท้าทายกองทัพของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่?”
  • 27 พวกทหารตอบเขาเหมือนกันว่า “ผู้ที่ฆ่าเขาได้ก็จะได้รับดังที่กล่าวมาแล้วนั้น”
  • 28 เอลีอับพี่ชายหัวปีได้ยินดาวิดพูดกับพวกผู้ชาย เอลีอับก็โกรธดาวิดกล่าวว่า “เจ้าลงมาทำไม? เจ้าทิ้งแกะไม่กี่ตัวที่ถิ่นทุรกันดารไว้กับใคร? ข้าเองรู้ถึงความอวดดีของเจ้า และความคิดชั่วของเจ้า เพราะเจ้าลงมาเพื่อจะมาดูสงคราม”
  • 29 ดาวิดจึงตอบว่า “ตอนนี้ข้าได้ทำอะไรไปแล้วหรือ? ถามเท่านั้นไม่ใช่หรือ?”
  • 30 เขาจึงหันไปหาคนอื่นเสีย และพูดอย่างเดียวกัน และพวกทหารก็ตอบเขาอย่างคราวก่อน
  • 31 เมื่อพวกเขาได้ยินถ้อยคำที่ดาวิดพูด พวกเขาก็ทูลให้ซาอูลทรงทราบ ซาอูลจึงทรงให้นำดาวิดมา
  • 32 ดาวิดก็ทูลซาอูลว่า “อย่าให้จิตใจของใครฝ่อไปเพราะชายคนนั้นเลย ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทจะไปสู้รบกับคนฟีลิสเตียคนนี้”
  • 33 และซาอูลตรัสกับดาวิดว่า “เจ้าไม่สามารถไปต้านคนฟีลิสเตียนี้ เพื่อสู้รบกับเขา เพราะเจ้าเป็นแต่เด็กหนุ่ม และชายคนนี้ชำนาญศึกตั้งแต่หนุ่มๆ แล้ว”
  • 34 แต่ดาวิดทูลซาอูลว่า “ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทเคยเลี้ยงฝูงแกะของบิดา และเมื่อมีสิงโตหรือหมีมาเอาลูกแกะตัวหนึ่งไปจากฝูง
  • 35 ข้าพระบาทก็ตามไปฆ่ามัน และช่วยกู้ลูกแกะนั้นมาจากปากของมัน ถ้ามันลุกขึ้นต่อสู้ข้าพระบาท ข้าพระบาทก็จับคางของมัน และทุบตีมันจนตาย
  • 36 ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทได้ฆ่าสิงโตและหมีนั้นมาแล้ว คนฟีลิสเตียผู้ไม่ได้เข้าสุหนัตนี้ก็เป็นเหมือนสัตว์เหล่านั้นตัวหนึ่ง ด้วยเขาได้ท้าทายกองทัพของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่”
  • 37 และดาวิดทูลต่อไปว่า “พระยาห์เวห์ผู้ทรงช่วยกู้ข้าพระบาทจากอุ้งเท้าของสิงโต และจากอุ้งเท้าของหมี จะทรงช่วยกู้ข้าพระบาทจากมือของคนฟีลิสเตียนี้” และซาอูลจึงตรัสแก่ดาวิดว่า “จงไปเถอะ และพระยาห์เวห์จะสถิตอยู่กับเจ้า”
  • 38 แล้วซาอูลก็ทรงแต่งดาวิดด้วยเครื่องทรงของพระองค์ ทรงสวมหมวกทองสัมฤทธิ์บนศีรษะของเขา และทรงสวมเสื้อเกราะให้เขา
  • 39 และดาวิดก็คาดดาบทับเครื่องอาวุธ เขาพยายามเดินดู เพราะเขาไม่ชิน แล้วดาวิดจึงทูลซาอูลว่า “ข้าพระบาทไม่สามารถสวมเครื่องเหล่านี้ออกไป เพราะว่าข้าพระบาทไม่ชิน” ดาวิดจึงปลดออกจากเขา
  • 40 แล้วจึงถือไม้เท้าไว้ในมือ และเลือกก้อนหินเกลี้ยงจากลำธารได้ห้าก้อน จึงใส่ในย่ามผู้เลี้ยงแกะของเขาในถุงของเขาและมือถือสลิงอยู่ แล้วเขาก็เข้าไปใกล้คนฟีลิสเตียคนนั้น
  • 41 คนฟีลิสเตียนั้นก็ออกมาใกล้ดาวิด พร้อมกับคนถือโล่เดินนำหน้า
  • 42 เมื่อคนฟีลิสเตียมองดูและเห็นดาวิดก็ดูถูกเขา เพราะเขาเป็นคนหนุ่ม ผิวแดงๆ รูปร่างงามน่าดู
  • 43 คนฟีลิสเตียจึงพูดกับดาวิดว่า “ข้าเป็นหมาหรือ? เจ้าจึงถือไม้เท้ามาหาข้า” และคนฟีลิสเตียคนนั้นก็แช่งด่าดาวิด โดยใช้นามพวกพระของตน
  • 44 คนฟีลิสเตียพูดกับดาวิดว่า “มาหาข้า ข้าจะเอาเนื้อของเจ้าให้นกในอากาศกับสัตว์ป่ากิน”
  • 45 แล้วดาวิดก็พูดกับคนฟีลิสเตียคนนั้นว่า “ท่านมาหาข้าด้วยดาบ ด้วยหอกและด้วยหอกซัด แต่ข้ามาหาท่านในพระนามแห่งพระยาห์เวห์จอมทัพ พระเจ้าแห่งกองทัพอิสราเอล ผู้ซึ่งท่านได้ท้าทาย
  • 46 ในวันนี้พระยาห์เวห์จะทรงมอบท่านไว้ในมือข้า และข้าจะฆ่าท่านและตัดศีรษะของท่าน ในวันนี้ข้าจะให้ศพของกองทัพฟีลิสเตียแก่นกในอากาศและแก่สัตว์ป่า เพื่อทั้งโลกนี้จะทราบว่ามีพระเจ้าองค์หนึ่งในอิสราเอล
  • 47 และชุมนุมชนนี้ทั้งสิ้นจะทราบว่า พระยาห์เวห์ไม่ได้ทรงช่วยด้วยดาบหรือด้วยหอก เพราะว่าการรบครั้งนี้เป็นของพระยาห์เวห์ พระองค์จะทรงมอบพวกท่านไว้ในมือของพวกเรา”
  • 48 ต่อมาเมื่อคนฟีลิสเตียนั้นลุกขึ้นเข้ามาใกล้เพื่อปะทะดาวิด ดาวิดก็วิ่งเข้าหาแนวรบเพื่อปะทะกับคนฟีลิสเตียนั้นอย่างรวดเร็ว
  • 49 และดาวิดเอามือล้วงเข้าไปในย่ามหยิบหินก้อนหนึ่งออกมา แล้วเหวี่ยงด้วยสลิงถูกคนฟีลิสเตียคนนั้นที่หน้าผาก ก้อนหินจมเข้าไปในหน้าผาก เขาก็ล้มหน้าคว่ำลงที่ดิน
  • 50 ดังนั้นดาวิดก็ชนะคนฟีลิสเตียคนนั้นด้วยสลิงและก้อนหินก้อนหนึ่ง และคว่ำคนฟีลิสเตียคนนั้นลง และฆ่าเขาเสีย แต่ดาวิดไม่มีดาบอยู่ในมือ
  • 51 ดาวิดจึงวิ่งไปยืนอยู่เหนือคนฟีลิสเตียคนนั้น หยิบดาบของเขาชักออกจากฝักฆ่าเขาเสีย และตัดศีรษะของเขาออกเสียด้วยดาบ เมื่อพวกฟีลิสเตียเห็นว่ายอดทหารของเขาตายเสียแล้วก็พากันหนีไป
  • 52 คนอิสราเอลกับคนยูดาห์ก็ลุกขึ้นโห่ร้องไล่ตามพวกฟีลิสเตีย ไกลไปจนถึงหุบเขาฉบับกรีกว่า เมืองกัทและถึงประตูเมืองเอโครน ทหารฟีลิสเตียที่บาดเจ็บจึงล้มลงตามทางจากชาอาราอิม ไกลไปจนถึงเมืองกัทและเมืองเอโครน
  • 53 และคนอิสราเอลก็กลับมาจากการไล่ล่าติดตามพวกฟีลิสเตีย และปล้นค่ายของพวกเขา
  • 54 ดาวิดก็นำศีรษะของคนฟีลิสเตียนั้นมาที่เยรูซาเล็ม แต่เอาเครื่องอาวุธของเขาไว้ที่เต็นท์ของตน
  • 55 เมื่อซาอูลทรงเห็นดาวิดออกไปต่อสู้กับคนฟีลิสเตียคนนั้น จึงตรัสถามอับเนอร์แม่ทัพของพระองค์ว่า “อับเนอร์ ชายหนุ่มคนนี้เป็นลูกของใคร?” และอับเนอร์ทูลว่า “ข้าแต่พระราชา ฝ่าพระบาททรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ข้าพระบาทไม่ทราบ”
  • 56 พระราชาจึงรับสั่งว่า “ไปสืบถามดูว่าเจ้าหนุ่มคนนี้เป็นลูกของใคร?”
  • 57 เมื่อดาวิดกลับมาจากการฆ่าพวกฟีลิสเตีย อับเนอร์ก็มาพาตัวเขาเข้าไปเฝ้าซาอูล ถือศีรษะของคนฟีลิสเตียคนนั้นไปด้วย
  • 58 ซาอูลจึงตรัสถามเขาว่า “เจ้าหนุ่มเอ๋ย เจ้าเป็นลูกของใคร?” และดาวิดทูลว่า “ข้าพระบาทเป็นบุตรของเจสซีชาวเบธเลเฮมผู้รับใช้ของฝ่าพระบาท”
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页