1
ผู้เผยพระวจนะเทียมและผู้สอนเท็จ ( ยด.4-13 ) แต่ว่าได้มีผู้เผยพระวจนะเทียมเท็จเกิดขึ้นในชนชาตินั้น เช่นเดียวกับที่จะมีผู้สอนเท็จเกิดขึ้นในพวกท่าน ซึ่งจะลอบเอาลัทธินอกรีตอันจะให้ถึงความพินาศเข้ามาเสี้ยมสอน จนถึงกับปฏิเสธองค์เจ้านายผู้ได้ทรงไถ่พวกเขาไว้ ซึ่งจะนำความพินาศมาสู่พวกเขาเองอย่างรวดเร็ว
2
จะมีคนจำนวนมากประพฤติลามกตามอย่างพวกเขา และเพราะคนเหล่านั้น ทางของความจริงจะถูกลบหลู่
3
และพวกสอนเท็จจะหาผลประโยชน์จากท่านทั้งหลายด้วยนิยายที่แต่งขึ้นโดยใจโลภ การลงโทษคนเหล่านั้นที่ได้ประกาศไว้นานมาแล้วจะไม่เนิ่นช้า และความพินาศที่จะเกิดกับพวกเขาก็จะไม่นิ่งเฉยภาษากรีกแปลตรงตัวว่า จะไม่หลับใหล
4
เพราะว่าถ้าพระเจ้าไม่ได้ทรงยกเว้นพวกทูตสวรรค์ที่ได้ทำบาปนั้น แต่ได้ทรงผลักพวกเขาลงไปในอเวจี และได้ล่ามพวกเขาด้วยโซ่แห่งความมืดมิดสำเนาโบราณบางฉบับว่า ได้ขังพวกเขาไว้ในนรกขุมมืด คุมไว้จนถึงเวลาพิพากษา
5
และไม่ได้ทรงยกเว้นโลกสมัยโบราณ แต่ได้ทรงคุ้มครองโนอาห์ผู้ประกาศความชอบธรรม กับคนอื่นอีกเจ็ดคน เมื่อคราวที่พระองค์ได้ทรงบันดาลให้น้ำท่วมโลกของคนอธรรมปฐก.6:1-7:24
6
และได้ทรงลงโทษเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ ให้พินาศเป็นเถ้าถ่านปฐก.19:24 เพื่อให้เป็นตัวอย่างแก่คนทั้งหลายที่ประพฤติอธรรม
7
และได้ทรงช่วยชีวิตโลทผู้ชอบธรรม ผู้มีความทุกข์เพราะการประพฤติลามกของคนชั่วปฐก.19:1-16
8
(เพราะเมื่อคนชอบธรรมอยู่ในหมู่คนชั่วทุกวี่วัน ความประพฤติของคนชั่วที่เขาได้เห็นและได้ยิน ทำให้จิตใจชอบธรรมของเขาระทมทุกข์)
9
ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงทราบว่าจะช่วยคนที่ยำเกรงพระเจ้าพ้นจากการทดลองได้อย่างไร และทรงทราบวิธีกักขังคนชั่วไว้ให้รับโทษเมื่อถึงวันพิพากษา
10
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนเหล่านั้นที่ปล่อยตัวไปตามกิเลสตัณหา และหมิ่นประมาทสิทธิอำนาจขององค์พระผู้เป็นเจ้าคนเหล่านี้โอหังบังอาจ ไม่กลัวที่จะลบหลู่เทวทูตผู้มีศักดิ์ศรี
11
แต่ส่วนพวกทูตสวรรค์แม้ว่ามีกำลังและฤทธานุภาพมากกว่า ก็ไม่ได้กล่าวโทษด้วยการประณามพวกนั้นเฉพาะพระพักตร์องค์พระผู้เป็นเจ้า
12
แต่ว่าผู้สอนเท็จเหล่านี้เป็นเหมือนสัตว์ที่ไร้ความคิด ที่ทำตามสัญชาตญาณ เกิดมาเพื่อถูกจับและถูกฆ่า พวกเขาประณามสิ่งที่พวกเขาไม่เข้าใจเลย พวกเขาจะถูกทำลายอย่างสัตว์เหล่านั้นภาษากรีกแปลตรงตัวว่า จะถูกทำลายในความเสื่อมทรามของพวกมัน
13
พวกเขาจะได้รับทุกข์เป็นโทษแห่งการอธรรม เขาทั้งหลายถือการเสเพลเฮฮาในเวลากลางวันเป็นความเพลิดเพลิน พวกเขาเป็นจุดด่างพร้อยและรอยมลทิน และประพฤติการเสเพลเฮฮา เมื่อกำลังกินเลี้ยงกับท่านทั้งหลาย
14
ดวงตาของพวกเขามีแววที่เปี่ยมด้วยความใคร่ในการล่วงประเวณี ไม่สิ้นความกระหายในบาป พวกเขาล่อลวงคนที่ใจไม่มั่นคง ใจของพวกเขาชินกับภาษากรีกแปลตรงตัวว่า ใจเขาถูกฝึกให้มีความโลภ เขาเหล่านั้นเป็นพงศ์พันธุ์ที่ต้องคำสาป
15
พวกเขาละทางที่ถูกต้อง หลงเจิ่นไปตามทางของบาลาอัมบุตรโบโซร์สำเนาโบราณบางฉบับว่า เบโอร์ ผู้ซึ่งโปรดปรานสินจ้างที่ได้มาจากการอธรรม
16
แต่บาลาอัมก็ถูกตำหนิในการละเมิดของตนเอง ลาใบ้ตัวหนึ่งพูดเป็นภาษามนุษย์ภาษากรีกแปลตรงตัวว่า พูดในเสียงของมนุษย์ และได้ยับยั้งอาการคลุ้มคลั่งของผู้เผยพระวจนะคนนั้นกดว.22:4-35
17
ผู้สอนเท็จเหล่านี้เป็นบ่อที่ไร้น้ำ เป็นหมอกที่ถูกพายุพัดไป พระองค์ทรงเตรียมที่มืดมิดสำหรับคนเหล่านั้นแล้วภาษากรีกแปลตรงตัวว่า ความมืดมิดถูกจัดเก็บไว้สำหรับคนเหล่านี้แล้ว
18
เพราะว่าพวกเขาพูดโอ้อวดอย่างเลื่อนลอย และใช้กิเลสตัณหาของเนื้อหนัง ดักจับคนทั้งหลายที่กำลังหนีไปจากพวกที่ดำเนินชีวิตในความหลงผิด
19
พวกเขาสัญญาว่าจะให้เสรีภาพกับคนเหล่านั้น แต่ตัวเองยังเป็นทาสของความเสื่อมทราม เพราะว่าผู้ใดพ่ายแพ้แก่สิ่งใด เขาก็เป็นทาสของสิ่งนั้น
20
เพราะว่าถ้าหลังจากพวกเขาหลีกหนีจากมลทินทั้งหลายของโลกแล้ว โดยการรู้จักพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าและผู้ช่วยให้รอดของเรา แต่พวกเขากลับเกี่ยวข้องและพ่ายแพ้แก่มลทินชั่วเหล่านั้นอีก บั้นปลายของพวกเขาก็กลับเลวร้ายยิ่งกว่าตอนต้น
21
เพราะว่าถ้าพวกเขาไม่ได้รู้จักทางชอบธรรมนั้นเสียเลย ก็ยังจะดีกว่าที่พวกเขาได้รู้แล้ว แต่กลับหันหลังให้วิสุทธิบัญญัติที่ทรงมอบแก่พวกเขานั้น
22
สิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาก็เป็นไปตามสุภาษิตซึ่งเป็นความจริงที่ว่า“สุนัขเลียกิน ภาษากรีกแปลตรงตัวว่า สุนัขกลับไปหา สิ่งที่มันสำรอกออกมา” สภษ.26:11และ“สุกรที่คนล้างมันให้สะอาดแล้ว กลับลุยลงไปนอนในโคลนอีก”ภาษากรีกแปลตรงตัวว่า สุกรที่ถูกล้างแล้วเกลือกกลิ้งตัวในโคลน