กิจการ​ของ​อัครทูต-9

(ฉบับมาตรฐาน 2011)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 เซาโลกลับใจ ( กจ.22:6-16 ; 26:12-18 ) ในระหว่างนั้นเซาโลยังขู่คำราม กล่าวว่าจะฆ่าบรรดาสาวกขององค์พระผู้เป็นเจ้า จึงไปหามหาปุโรหิต
  • 2 ขอหนังสือไปยังธรรมศาลาต่างๆ ในเมืองดามัสกัส เพื่อที่ว่าถ้าพบใครเป็นพวก “ทางนั้น”พวก “ทางนั้น” หมายถึง พวกที่เชื่อในข่าวประเสริฐ ไม่ว่าชายหรือหญิง จะจับมัดพามายังกรุงเยรูซาเล็ม
  • 3 ขณะที่เซาโลเดินทางไปใกล้จะถึงเมืองดามัสกัส ทันใดนั้นมีแสงสว่างส่องมาจากฟ้าล้อมรอบตัวท่าน
  • 4 ท่านก็ล้มลงที่พื้นและได้ยินพระสุรเสียงตรัสว่า “เซาโล เซาโลเอ๋ย เจ้าข่มเหงเราทำไม?”
  • 5 เซาโลจึงทูลถามว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์เป็นใคร?” พระองค์ตรัสว่า “เราคือเยซูผู้ที่เจ้าข่มเหง
  • 6 จงลุกขึ้นเถิดและเข้าไปในเมือง จะมีคนบอกให้เจ้าทราบว่าเจ้าต้องทำอะไร”
  • 7 พวกที่เดินทางไปด้วยกันก็ยืนจังงังพูดไม่ออก พวกเขาได้ยินพระสุรเสียงแต่ไม่เห็นใคร
  • 8 เซาโลจึงลุกขึ้นจากพื้น เมื่อลืมตาแล้วก็มองอะไรไม่เห็น พวกเขาจึงจูงมือท่านเข้าไปในเมืองดามัสกัส
  • 9 ตาของท่านก็มืดมัวไปถึงสามวัน และท่านไม่ได้กินหรือดื่มอะไรเลย
  • 10 ในเมืองดามัสกัสมีสาวกคนหนึ่งชื่ออานาเนีย องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับคนนั้นทางนิมิตว่า “อานาเนียเอ๋ย” อานาเนียจึงทูลตอบว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์อยู่ที่นี่”
  • 11 พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “จงลุกขึ้นไปที่ถนนสายที่เรียกว่า ‘ถนนตรง’ และไปที่บ้านของยูดาสถามหาชายคนหนึ่งจากเมืองทาร์ซัสที่ชื่อเซาโล ตอนนี้เขากำลังอธิษฐานอยู่
  • 12 และ[ในนิมิต]สำเนาโบราณบางฉบับ ไม่มีคำนี้เขามองเห็นชายคนหนึ่งชื่ออานาเนียเข้ามาวางมือบนตัวเขาเพื่อที่ว่าเขาจะมองเห็นอีก”
  • 13 แต่อานาเนียทูลตอบว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ได้ยินหลายคนพูดถึงคนนั้นว่า เขาทำร้ายธรรมิกชนของพระองค์ในกรุงเยรูซาเล็มมากมาย
  • 14 และที่นี่เขาก็ได้สิทธิอำนาจจากพวกหัวหน้าปุโรหิตให้มาจับคนทั้งหลายที่อธิษฐานออกพระนามของพระองค์”
  • 15 องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสกับท่านว่า “จงไปเถิด เพราะว่าคนนี้เป็นภาชนะที่เราเลือกสรรไว้ เขาจะนำนามของเราไปถึงบรรดาคนต่างชาติและบรรดากษัตริย์ และไปถึงพวกอิสราเอล
  • 16 เราจะแสดงให้เขาเห็นว่าเขาจะต้องทนทุกข์ลำบากมากเท่าไรเพื่อนามของเรา”
  • 17 แล้วอานาเนียก็ไป และเข้าไปในบ้านนั้น วางมือบนตัวเซาโลกล่าวว่า “พี่เซาโล พระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ที่ปรากฏแก่ท่านระหว่างทางที่ท่านมาที่นี่ ทรงใช้ข้าพเจ้ามาเพื่อให้ท่านมองเห็นอีก และเพื่อให้ท่านเต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์”
  • 18 ทันใดนั้นมีอะไรเหมือนเกล็ดหลุดจากตาของเซาโล แล้วท่านก็เห็นได้อีก ท่านจึงลุกขึ้นรับบัพติศมา
  • 19 พอรับประทานอาหารแล้วก็มีกำลังขึ้นเซาโลประกาศข่าวประเสริฐในดามัสกัส เซาโลพักอยู่กับพวกสาวกในเมืองดามัสกัสหลายวัน
  • 20 และท่านก็ไม่ได้รีรอ ท่านเริ่มประกาศเรื่องพระเยซูตามธรรมศาลาต่างๆ ว่า “พระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า”
  • 21 คนทั้งหลายที่ได้ยินก็ประหลาดใจพูดกันว่า “คนนี้ไม่ใช่หรือที่ทำร้ายผู้คนในกรุงเยรูซาเล็มที่อธิษฐานออกพระนามนี้? และเขามาที่นี่ก็เพื่อจับพวกนั้นส่งให้พวกหัวหน้าปุโรหิตไม่ใช่หรือ?”
  • 22 แต่เซาโลยิ่งมีกำลังมากขึ้น และทำให้พวกยิวในเมืองดามัสกัสงงงันด้วยการพิสูจน์ว่าพระเยซูทรงเป็นพระคริสต์
  • 23 เซาโลหนีพ้นจากพวกยิว หลังจากนั้นอีกหลายวัน พวกยิวก็ปรึกษากันว่าจะฆ่าเซาโล
  • 24 แต่แผนการของพวกเขารู้ไปถึงหูของเซาโล พวกเขาคอยเฝ้าที่ประตูเมืองทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อดักฆ่าเซาโล
  • 25 แต่พวกสาวกเอาเซาโลนั่งลงในกระบุงใบใหญ่ตอนกลางคืนแล้วหย่อนท่านลงจากกำแพงเมือง2 คร.11:32-33
  • 26 เซาโลที่กรุงเยรูซาเล็ม เมื่อเซาโลไปถึงกรุงเยรูซาเล็มแล้ว ท่านพยายามจะเข้าร่วมกับพวกสาวก แต่เขาทั้งหลายกลัว เพราะไม่เชื่อว่าเซาโลเป็นสาวก
  • 27 แต่บารนาบัสพาท่านไปหาพวกอัครทูต และเล่าให้พวกเขาฟังว่าเซาโลเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ที่ตรัสกับท่านระหว่างทางอย่างไร และท่านประกาศออกพระนามพระเยซูด้วยใจกล้าหาญในเมืองดามัสกัสอย่างไร
  • 28 แล้วเซาโลจึงได้เข้านอกออกในอยู่กับพวกอัครทูตในกรุงเยรูซาเล็ม
  • 29 ประกาศออกพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยใจกล้าหาญ ท่านพูดและโต้แย้งกับพวกยิวที่พูดกรีก แต่พวกนั้นพยายามหาทางฆ่าท่านเสีย
  • 30 เมื่อพี่น้องรู้เรื่องนี้ ก็พาท่านลงไปยังเมืองซีซารียา แล้วส่งต่อไปยังเมืองทาร์ซัส
  • 31 เพราะฉะนั้น คริสตจักรตลอดทั่วแคว้นยูเดีย กาลิลี และสะมาเรียก็เกิดความสงบสุขและเจริญเติบโต ต่างประพฤติตนด้วยความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าและรับการหนุนใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ คริสตสมาชิกจึงยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น
  • 32 ไอเนอัสหายโรค ขณะที่เปโตรเดินทางไปๆ มาๆ ทั่วทุกแห่งนั้น ท่านก็ลงไปหาพวกธรรมิกชนที่อาศัยอยู่ในเมืองลิดดาด้วย
  • 33 เปโตรพบคนหนึ่งชื่อไอเนอัสที่นั่น เขาเป็นอัมพาตต้องนอนอยู่บนเตียงมาแปดปีแล้ว
  • 34 เปโตรกล่าวกับเขาว่า “ไอเนอัส พระเยซูคริสต์ทรงให้ท่านหายโรค จงลุกขึ้นเก็บที่นอนของท่านเถิด” ทันใดนั้นไอเนอัสก็ลุกขึ้น
  • 35 เมื่อคนทั้งหลายที่อยู่ในเมืองลิดดาและที่ราบชาโรนเห็นแล้วก็กลับใจมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้า
  • 36 เปโตรที่เมืองลิดดาและยัฟฟา ในเมืองยัฟฟามีหญิงคนหนึ่งที่เป็นสาวกชื่อทาบิธาเป็นภาษาอาราเมคแปลว่า กวาง ตามภาษากรีกว่าโดรคัสแปลว่า กวาง หญิงคนนี้เคยทำคุณประโยชน์และสงเคราะห์คนจนมากมาย
  • 37 เวลานั้นหญิงคนนี้ป่วยจนถึงแก่ความตาย พวกเขาจึงอาบน้ำศพและตั้งไว้ในห้องชั้นบน
  • 38 เมืองลิดดานั้นอยู่ใกล้กับเมืองยัฟฟา เมื่อพวกสาวกได้ยินว่าเปโตรอยู่ที่นั่น จึงใช้คนสองคนไปขอร้องท่านว่า “เชิญมาหาโดยด่วน”
  • 39 เปโตรจึงลุกขึ้นไปกับเขาทั้งสอง เมื่อถึงแล้วพวกเขาก็พาท่านขึ้นไปที่ห้องชั้นบน พวกหญิงม่ายก็ยืนร้องไห้อยู่ข้างๆ ท่านและชี้ให้ท่านดูเสื้อผ้าต่างๆ ที่โดรคัสทำเมื่อยังมีชีวิตอยู่
  • 40 เปโตรจึงให้คนทั้งหลายออกไปข้างนอก และคุกเข่าลงอธิษฐาน แล้วหันมายังศพนั้นกล่าวว่า “ทาบิธา จงลุกขึ้น” ทาบิธาก็ลืมตา เมื่อเห็นเปโตรจึงลุกขึ้นนั่ง
  • 41 เปโตรยื่นมือออกมาพยุงเธอ แล้วเรียกพวกธรรมิกชนกับบรรดาแม่ม่ายเข้ามา แล้วมอบหญิงที่มีชีวิตนั้นให้กับพวกเขา
  • 42 เหตุการณ์นั้นลือไปตลอดทั่วเมืองยัฟฟา คนจำนวนมากก็พากันมาเชื่อถือองค์พระผู้เป็นเจ้า
  • 43 เปโตรอาศัยอยู่ในเมืองยัฟฟาหลายวัน โดยพักอยู่กับซีโมนที่เป็นช่างฟอกหนัง
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页