1
บาปของเยรูซาเล็ม วิบัติแก่เมืองที่กบฏ และเป็นมลทินเมืองที่กดขี่ผู้อื่น
2
เมืองที่ไม่ยอมฟังเสียงใครเลยและไม่ยอมรับการตีสอนใดๆเมืองที่ไม่วางใจในพระยาห์เวห์และไม่ยอมเข้าใกล้พระเจ้า
3
พวกเจ้านายที่อยู่ในเมืองนี้เป็นเหมือนสิงโตที่คำรามพวกผู้พิพากษาของเธอก็เป็นเหมือนหมาป่าในยามเย็นที่ไม่ยอมเหลืออะไรไว้ถึงรุ่งเช้า
4
พวกผู้เผยพระวจนะของเธอเป็นคนไม่รับผิดชอบแปลได้อีกว่า เป็นคนเย่อหยิ่งทั้งยังเป็นคนทรยศบรรดาปุโรหิตของเธอก็ดูหมิ่นสิ่งของศักดิ์สิทธิ์และฝ่าฝืนธรรมบัญญัติ
5
พระยาห์เวห์ผู้ทรงอยู่ในเมืองนั้นชอบธรรมพระองค์ไม่ทรงทำผิดเลยทุกๆ เช้าพระองค์ทรงทำความยุติธรรมของพระองค์ให้ประจักษ์ทุกรุ่งอรุณไม่ทรงเว้นเลยแต่คนอยุติธรรมนั้นไม่รู้จักอาย
6
เราได้กำจัดบรรดาประชาชาติป้อมปราการของพวกเขาพังทลายเราทำให้ถนนของพวกเขาว่างเปล่าไม่มีใครเดินบนนั้นเมืองของพวกเขาถูกทิ้งร้างไม่มีคนอยู่ ไร้ผู้อาศัย
7
เรากล่าวว่า เมืองนั้นจะยำเกรงเราแน่เธอจะยอมรับการตีสอนเธอคงจะไม่ละสายตาไปจากวรรคนี้แปลจากฉบับกรีก ส่วนฉบับฮีบรูว่า ที่อาศัยของเธอจะไม่ถูกทำลายทุกสิ่งที่เรานำมายังเธอแต่เขาทั้งหลายกลับยิ่งกระตือรือร้นที่จะให้การกระทำทั้งสิ้นของเขาเสื่อมทราม
8
บรรดาประชาชาติถูกลงโทษและกลับใจ พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า “เพราะฉะนั้นจงคอยเราคอยวันที่เราลุกขึ้นเป็นพยานลุกขึ้นเป็นพยาน แปลจากฉบับกรีก ส่วนฉบับฮีบรูว่า ลุกขึ้นล่าเหยื่อเพราะเราตัดสินใจที่จะรวบรวมประชาชาติและให้อาณาจักรมาชุมนุมกันเพื่อเทความกริ้วของเราบนพวกเขาคือความร้อนแรงแห่งความโกรธทั้งสิ้นของเราเพราะว่าพิภพทั้งหมดจะถูกเผาผลาญด้วยไฟแห่งความหวงแหนของเรา
9
“ในเวลานั้น เราจะเปลี่ยนริมฝีปากของประชากรทั้งหลายให้เป็นริมฝีปากที่บริสุทธิ์เพื่อว่าทุกคนจะร้องทูลออกพระนามพระยาห์เวห์และปรนนิบัติพระองค์เป็นใจเดียวกัน
10
พวกที่ทูลต่อเรา ชุมชนของเราที่กระจัดกระจายไปจะนำเครื่องถวายมายังเราจากฟากโน้นของแม่น้ำแห่งคูช
11
“ในวันนั้น เจ้าจะไม่ถูกทำให้อับอายจากการกระทำทั้งสิ้นซึ่งเจ้าได้กบฏต่อเราเพราะในเวลานั้นเราจะเอาผู้โอ้อวดเย่อหยิ่งออกไปจากท่ามกลางเจ้าเจ้าก็จะไม่หยิ่งจองหองที่ภูเขาบริสุทธิ์ของเราอีกต่อไป
12
เพราะเราจะเหลือไว้ในท่ามกลางเจ้าประชาชนที่ถ่อมใจและเจียมตัวพวกเขาจะแสวงหาที่ลี้ภัยในพระนามของพระยาห์เวห์
13
บรรดาคนที่เหลืออยู่ในอิสราเอลจะไม่ทำความผิดบาปและจะไม่กล่าวคำโกหกและในปากของพวกเขานั้นจะไม่พบลิ้นที่หลอกลวงวว.14:5เพราะเขาทั้งหลายจะหากินและนอนลงและไม่มีใครทำให้เขาหวาดหวั่น”
14
บทเพลงแห่งความยินดี “โอ บุตรีแห่งศิโยนเอ๋ย จงร้องเพลงเสียงดังโอ อิสราเอลเอ๋ย จงโห่ร้องเถิดจงเปรมปรีดิ์และรื่นเริงด้วยเต็มใจของเจ้าเถิดนะ บุตรีแห่งเยรูซาเล็ม
15
พระยาห์เวห์ทรงยกเลิกการลงโทษเจ้าแล้วพระองค์ทรงขับไล่ศัตรูของเจ้าไปแล้วกษัตริย์แห่งอิสราเอลคือพระยาห์เวห์ทรงอยู่ท่ามกลางเจ้าเจ้าจะไม่กลัวภัยพิบัติอีกต่อไป
16
ในวันนั้น เขาจะพูดกับเยรูซาเล็มว่า‘โอ ศิโยนเอ๋ย อย่ากลัวเลยอย่าให้มือของเจ้าอ่อนเปลี้ยไป
17
พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าทรงอยู่ท่ามกลางเจ้าเป็นนักรบผู้ทรงช่วยให้รอดพระองค์จะทรงเปรมปรีดิ์เพราะเจ้าด้วยความยินดีและทรงสงบในความรักของพระองค์พระองค์จะทรงเริงร่าเพราะเจ้าด้วยการร้องเพลงเสียงดัง
18
เหมือนในวันที่มีงานเลี้ยงฉลอง’เราจะขจัดภัยพิบัติเสียจากเจ้าเพื่อเจ้าจะไม่ต้องทนต่อการเยาะเย้ยเพราะเรื่องนี้ทั้งวรรคนี้แปลจากฉบับกรีกและฉบับซีเรีย ส่วนความหมายในฉบับฮีบรูไม่ชัดเจน
19
นี่แน่ะ ในเวลานั้นเราจะจัดการกับทุกคนที่กดขี่เจ้าเราจะช่วยคนขาพิการและรวบรวมผู้ที่ถูกขับไล่ไปและเราจะเปลี่ยนความอายของเขาให้เป็นความน่าสรรเสริญและให้เป็นชื่อเสียงที่เลื่องลือไปทั้งโลก
20
ในเวลานั้น เราจะนำพวกเจ้าเข้ามาคือในเวลาที่เรารวบรวมเจ้าเข้าด้วยกันเราจะทำให้เจ้ามีชื่อเสียงและเป็นที่สรรเสริญท่ามกลางประชากรทั้งสิ้นในโลกเมื่อเราให้เจ้ากลับสู่สภาพเดิมต่อหน้าต่อตาเจ้า”พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ