ดา‌เนียล-2

(ฉบับมาตรฐาน 2011)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 พระสุบินของเนบูคัดเนสซาร์ ในปีที่สองของรัชกาลเนบูคัดเนสซาร์ พระองค์ทรงสุบินคำราชาศัพท์หมายถึง ฝัน พระองค์ทุกข์พระทัยจนบรรทมไม่หลับ
  • 2 แล้วกษัตริย์จึงทรงบัญชาให้เรียกพวกโหร หมอดู นักวิทยาคม และคนเคลเดียเป็นชื่อเรียกผู้มีเวทมนตร์คาถาเข้ามาเพื่อทูลกษัตริย์ให้รู้เรื่องที่ทรงสุบิน เขาทั้งหลายก็เข้ามาเฝ้ากษัตริย์
  • 3 และกษัตริย์ตรัสกับพวกเขาว่า “เราได้ฝัน และจิตใจของเราก็เป็นทุกข์ อยากรู้ว่าฝันเรื่องอะไร”
  • 4 แล้วคนเคลเดียจึงทูลกษัตริย์เป็นภาษาอาราเมคว่าเนื้อหาตั้งแต่นี้จนจบบทที่ 7 บันทึกเป็นภาษาอาราเมค “ข้าแต่พระราชา ขอทรงพระเจริญเป็นนิตย์ ขอเล่าพระสุบินแก่บรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ แล้วเหล่าข้าพระบาทจะได้ถวายคำแก้พระสุบิน”
  • 5 กษัตริย์ทรงตอบคนเคลเดียว่า “คำของเรานั้นเด็ดขาด ถ้าเจ้าไม่บอกให้เรารู้ความฝันพร้อมทั้งคำแก้ฝัน เจ้าจะถูกทึ้งแขนขาออก และบ้านเรือนของเจ้าจะถูกทำให้เป็นเศษเล็กเศษน้อย
  • 6 แต่ถ้าเจ้าเปิดเผยความฝันและคำแก้ฝันให้เรา เจ้าจะได้รับของขวัญ รางวัล และเกียรติยศยิ่งใหญ่ ฉะนั้นจงเปิดเผยความฝันและคำแก้ฝันแก่เรา”
  • 7 เขาทั้งหลายทูลเป็นครั้งที่สองว่า “ขอพระราชาเล่าพระสุบินแก่บรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ และเหล่าข้าพระบาทจะถวายคำแก้พระสุบิน พ่ะย่ะค่ะ”
  • 8 กษัตริย์ทรงตอบว่า “เรารู้แน่แล้วว่า เจ้าพยายามจะถ่วงเวลาไว้ เพราะเจ้าเห็นว่าคำของเรานั้นเด็ดขาด
  • 9 ถ้าเจ้าไม่ให้เรารู้ความฝัน ก็มีคำตัดสินเจ้าอยู่ข้อเดียว เจ้าทั้งหลายตกลงจะพูดเท็จและพูดทุจริตต่อเรา เผื่อว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไป เพราะฉะนั้นเจ้าจงบอกความฝันแก่เรา แล้วเราจะรู้ว่าเจ้าแก้ความฝันให้เราได้”
  • 10 คนเคลเดียจึงทูลกษัตริย์ว่า “ไม่มีใครในพิภพเปิดเผยเรื่องของพระราชาได้ เพราะว่าไม่มีพระราชายิ่งใหญ่และทรงฤทธิ์องค์ใดไต่ถามสิ่งเหล่านี้จากโหร หรือหมอดู หรือคนเคลเดีย
  • 11 สิ่งซึ่งพระราชาตรัสถามนั้นยากเกินไป ไม่มีใครจะเปิดเผยแด่พระราชาได้นอกจากบรรดาพระผู้ไม่ได้อยู่กับมนุษย์”
  • 12 เพราะเรื่องนี้กษัตริย์จึงกริ้วและทรงพระพิโรธยิ่งนัก และมีรับสั่งให้ประหารพวกนักปราชญ์ทั้งหมดของบาบิโลน
  • 13 เพราะฉะนั้นจึงมีพระราชกฤษฎีกาประกาศไปว่าให้ฆ่านักปราชญ์เสียทั้งหมด เขาจึงตามหาดาเนียลและเพื่อนๆ เพื่อจะประหารชีวิต
  • 14 แล้วดาเนียลก็ตอบอารีโอคหัวหน้าราชองครักษ์ ผู้ออกไปประหารนักปราชญ์ของบาบิโลน ด้วยคำแยบคายและด้วยความรอบคอบ
  • 15 ท่านถามอารีโอคหัวหน้าว่า “ไฉนพระราชกฤษฎีกาของพระราชาจึงเร่งด่วนนัก?” แล้วอารีโอคก็เล่าเรื่องให้ดาเนียลรู้
  • 16 แล้วดาเนียลก็เข้าไปเฝ้าและทูลขอให้กษัตริย์ทรงเลื่อนกำหนดเวลาเพื่อท่านจะถวายคำแก้พระสุบินแด่กษัตริย์
  • 17 แล้วดาเนียลก็กลับไปยังบ้านของท่าน และแจ้งเรื่องแก่ฮานันยาห์ มิชาเอล และอาซาริยาห์สหายของท่าน
  • 18 และบอกพวกเขาให้ทูลขอพระกรุณาจากพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์เรื่องความลึกลับนี้ เพื่อดาเนียลและเพื่อนของท่านจะไม่พินาศพร้อมกับบรรดานักปราชญ์อื่นๆ ของบาบิโลน
  • 19 ในนิมิตเวลากลางคืน พระองค์ทรงเปิดเผยความลึกลับนั้นแก่ดาเนียล แล้วดาเนียลก็ถวายสาธุการแด่พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์
  • 20 ดาเนียลกล่าวว่า“สาธุการแด่พระนามของพระเจ้าเป็นนิตย์สืบไปปัญญาและฤทธานุภาพเป็นของพระองค์
  • 21 พระองค์ทรงเปลี่ยนวาระและฤดูกาลทรงถอดบรรดากษัตริย์และทรงตั้งขึ้นใหม่พระองค์ประทานปัญญาแก่นักปราชญ์และความรู้แก่คนฉลาด
  • 22 พระองค์ทรงเปิดเผยสิ่งที่ลึกซึ้งและลี้ลับพระองค์ทรงทราบสิ่งที่อยู่ในความมืดและความสว่างก็อยู่กับพระองค์
  • 23 โอ พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของข้าพระองค์ข้าพระองค์ขอบพระคุณและสรรเสริญพระองค์เพราะพระองค์ประทานปัญญาและกำลังแก่ข้าพระองค์สิ่งนั้นที่พวกข้าพระองค์ทูลขอ พระองค์ก็ทรงให้ข้าพระองค์ทราบแล้วเพราะพระองค์ได้ทรงเปิดเผยเรื่องของพระราชาแก่พวกข้าพระองค์”
  • 24 ดาเนียลทำนายพระสุบิน แล้วดาเนียลก็เข้าไปหาอารีโอค ผู้ซึ่งกษัตริย์แต่งตั้งให้ประหารนักปราชญ์ของบาบิโลน ท่านได้เข้าไปและกล่าวว่า “ขออย่าประหารนักปราชญ์ของบาบิโลน โปรดนำข้าพเจ้าเข้าเฝ้าพระราชา และข้าพเจ้าจะถวายคำแก้ฝันแก่พระราชา”
  • 25 แล้วอารีโอคก็รีบนำดาเนียลเข้าเฝ้ากษัตริย์ และทูลพระองค์ว่า “ข้าพระบาทพบชายคนหนึ่ง ในพวกที่ถูกกวาดเป็นเชลยจากยูดาห์ ผู้จะทูลให้พระราชาทราบคำแก้พระสุบินได้”
  • 26 กษัตริย์จึงตรัสแก่ดาเนียลผู้มีชื่อว่าเบลเทชัสซาร์ว่า “เจ้าสามารถให้เรารู้ถึงความฝันที่เราได้ฝันและคำแก้ฝันนั้นได้หรือ?”
  • 27 ดาเนียลทูลกษัตริย์ว่า “ไม่มีนักปราชญ์ หรือหมอดู หรือโหร หรือหมอดูฤกษ์ยามคนใดเปิดเผยความลึกลับซึ่งพระราชาไต่ถามแด่พระองค์ได้
  • 28 แต่มีพระเจ้าองค์หนึ่งในฟ้าสวรรค์ผู้ทรงเปิดเผยความลึกลับทั้งหลาย และพระองค์ทรงให้พระราชาเนบูคัดเนสซาร์รู้ถึงสิ่งซึ่งจะเกิดขึ้นในยุคสุดท้าย และนิมิตที่ผุดขึ้นในพระเศียรคำราชาศัพท์หมายถึง ศีรษะของพระองค์บนพระแท่นบรรทมคำราชาศัพท์หมายถึง เตียงนอนนั้นเป็นดังนี้ พ่ะย่ะค่ะ
  • 29 ข้าแต่พระราชา ขณะเมื่อฝ่าพระบาทบรรทมคำราชาศัพท์หมายถึง นอนบนพระแท่น พระดำริคำราชาศัพท์หมายถึง ความคิดในเรื่องซึ่งจะเกิดมาภายหลังได้ผุดขึ้น และพระองค์นั้นผู้ทรงเปิดเผยความลึกลับก็ทรงให้ฝ่าพระบาทรู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น
  • 30 ส่วนข้าพระบาทนั้น ได้รับการเปิดเผยความลับลึกนี้ ไม่ใช่เพราะข้าพระบาทมีปัญญามากกว่าคนอื่นๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่เพื่อพระราชาจะรู้คำแก้พระสุบิน และเพื่อฝ่าพระบาทจะเข้าใจพระดำริในพระทัยของฝ่าพระบาท
  • 31 “ข้าแต่พระราชา ฝ่าพระบาททอดพระเนตร และดูเถิด มีปฏิมากรขนาดใหญ่ ปฏิมากรนี้มหึมาจริงๆ และสุกใสยิ่งนัก ตั้งอยู่เฉพาะพระพักตร์ฝ่าพระบาท และรูปร่างน่ากลัว
  • 32 หัวของปฏิมากรนี้เป็นทองนพคุณ อกและแขนเป็นเงิน ท้องและโคนขาเป็นทองสัมฤทธิ์
  • 33 ขาเป็นเหล็ก เท้าเป็นเหล็กปนดิน
  • 34 ขณะพระองค์ทอดพระเนตร มีหินก้อนหนึ่งถูกตัดออกมาไม่ใช่ด้วยมือมนุษย์ หินนั้นกระทบปฏิมากรที่เท้าอันเป็นเหล็กปนดิน ทำให้มันแตกเป็นชิ้นๆ
  • 35 แล้วส่วนเหล็ก ดินเหนียว ทองสัมฤทธิ์ เงิน และทองคำ ก็แตกเป็นชิ้นๆ พร้อมกัน กลายเป็นเหมือนแกลบจากลานนวดข้าวในฤดูร้อน ลมก็พัดพาเอาไปทั่ว จึงหาร่องรอยไม่พบอีกเลย แต่ก้อนหินที่กระทบปฏิมากรนั้นกลายเป็นภูเขาใหญ่จนเต็มพิภพ
  • 36 “นี่เป็นพระสุบิน พ่ะย่ะค่ะ บัดนี้เหล่าข้าพระบาทขอกราบทูลคำแก้พระสุบินให้พระราชาทรงทราบ
  • 37 ข้าแต่พระราชา พระราชาเหนือพระราชาทั้งหลาย ผู้ซึ่งพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ได้ประทานราชอาณาจักร อานุภาพ ฤทธิ์เดช และศักดิ์ศรี
  • 38 และได้ทรงมอบบรรดามนุษย์ สัตว์ในท้องทุ่งและนกบนฟ้า ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ที่ใด ไว้ในพระหัตถ์ของฝ่าพระบาท ให้ฝ่าพระบาทปกครองทุกอย่าง เศียรทองคำนั้นคือฝ่าพระบาทเอง
  • 39 ต่อจากฝ่าพระบาทไป จะมีราชอาณาจักรด้อยกว่าของฝ่าพระบาทปรากฏขึ้น และยังมีราชอาณาจักรที่สามเป็นทองสัมฤทธิ์ ซึ่งจะปกครองอยู่ทั่วพิภพ
  • 40 และจะมีราชอาณาจักรที่สี่ แข็งแรงดั่งเหล็ก เพราะเหล็กตีสิ่งทั้งหลายให้หักและแตกเป็นชิ้นๆ อย่างไร ราชอาณาจักรนั้นจะหักและทุบสิ่งเหล่านี้ดังเหล็กซึ่งทุบให้แหลกอย่างนั้น
  • 41 ดังที่ฝ่าพระบาททอดพระเนตร เท้าและนิ้วเท้าเป็นดินของช่างปั้นหม้อบ้าง เหล็กบ้าง จะเป็นราชอาณาจักรที่แตกแยก แต่ความแข็งของเหล็กจะยังอยู่ในนั้นบ้าง ดังที่ฝ่าพระบาททอดพระเนตรเหล็กปนดินเหนียว
  • 42 และนิ้วเท้าเป็นเหล็กปนดินอย่างไร ราชอาณาจักรนั้นจึงแข็งแรงบ้างเปราะบ้างอย่างนั้น
  • 43 ดังที่ฝ่าพระบาททอดพระเนตรเหล็กปนดินเหนียว พวกเขาพยายามจะมีเอกภาพด้วยการสมรสภาษาอาราเมคแปลตรงตัวว่า ปนกันด้วยเชื้อสายของมนุษย์ แต่จะไม่ยึดกันแน่น เช่นเดียวกับที่เหล็กไม่ประสมเข้ากับดิน
  • 44 และในสมัยของพระราชาเหล่านั้น พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์จะทรงสถาปนาราชอาณาจักรหนึ่ง ซึ่งไม่มีวันถูกทำลาย หรือถูกมอบให้ชนชาติอื่น ราชอาณาจักรนั้นจะทำให้ราชอาณาจักรเหล่านี้ทั้งหมดแตกเป็นชิ้นๆ จนพินาศไป และราชอาณาจักรนั้นจะตั้งมั่นอยู่เป็นนิตย์
  • 45 ดังที่ฝ่าพระบาททอดพระเนตรก้อนหินถูกตัดออกจากภูเขา ไม่ใช่ด้วยมือมนุษย์ และก้อนหินนั้นได้ทำให้เหล็ก ทองสัมฤทธิ์ ดินเหนียว เงิน และทองคำแตกเป็นชิ้นๆ พระเจ้ายิ่งใหญ่ได้ทรงให้พระราชารู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ พระสุบินนั้นเป็นจริง และคำแก้พระสุบินก็แน่นอน”
  • 46 ดาเนียลและเพื่อนๆ ได้ความดีความชอบ แล้วกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ก็ทรงกราบลงและเคารพดาเนียล และทรงบัญชาให้นำเครื่องบูชาและเครื่องหอมมาถวายดาเนียล
  • 47 กษัตริย์ตรัสกับดาเนียลว่า “แน่นอนทีเดียว พระเจ้าของท่านทรงเป็นพระเจ้าเหนือพระทั้งหลาย และทรงเป็นองค์เจ้านายเหนือพระราชาทั้งปวง ทรงเป็นผู้เปิดเผยความลึกลับ เพราะท่านสามารถเปิดเผยความลึกลับนี้ได้”
  • 48 แล้วกษัตริย์ทรงให้ดาเนียลเป็นใหญ่ และประทานของกำนัลใหญ่จำนวนมาก อีกทั้งทรงแต่งตั้งให้เป็นผู้ครอบครองมณฑลทั้งหมดของบาบิโลน และเป็นประธานองคมนตรีของนักปราชญ์ทั้งสิ้นของบาบิโลน
  • 49 ดาเนียลก็ทูลขอต่อกษัตริย์ และพระองค์ทรงตั้งชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก เป็นผู้บริหารมณฑลบาบิโลน แต่ดาเนียลยังคงอยู่ในราชสำนัก
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页