1
พลับพลา ( อพย.36:8-38 ) “นอกจากนั้น เจ้าจงสร้างพลับพลาด้วยม่านสิบผืน ที่ทำจากผ้าป่านเนื้อดี และด้ายย้อมสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้ม และจงปักภาพเครูบซึ่งออกแบบไว้ที่ม่านนั้น
2
ม่านผืนหนึ่งให้ยาว 12 เมตร กว้าง 2 เมตร ม่านทุกผืนให้มีขนาดเท่ากัน
3
ม่านห้าผืนให้เกี่ยวติดกัน และอีกห้าผืนนั้นก็ให้เกี่ยวติดกันด้วย
4
และเจ้าจงทำหูม่านด้วยด้ายสีฟ้าติดไว้ตามขอบม่านด้านนอกสุดทั้งชุดที่หนึ่งและชุดที่สอง
5
เจ้าจงทำหูห้าสิบหูที่ม่านผืนหนึ่ง และเจ้าจงทำหูห้าสิบหูที่ขอบม่านในชุดที่สอง ให้หูม่านเหล่านี้อยู่ตรงข้ามกันและกัน
6
จงทำขอทองคำห้าสิบขอ และจงใช้ขอเหล่านั้นเกี่ยวม่านทั้งสองชุด เพื่อให้เป็นพลับพลาเดียวกัน
7
“และเจ้าจงทำม่านอีกสิบเอ็ดผืนด้วยขนแพะสำหรับเป็นเต็นท์คลุมพลับพลา
8
ม่านผืนหนึ่งยาว 13 เมตร กว้าง 2 เมตร ทั้งสิบเอ็ดผืนให้ขนาดเท่ากัน
9
ม่านห้าผืนให้เกี่ยวติดกันต่างหาก และม่านอีกหกผืนให้เกี่ยวติดกันต่างหากเช่นกัน และจงพับม่านผืนที่หกนั้นสองทบ ให้ห้อยซ้อนลงมาข้างหน้าเต็นท์
10
จงทำหูม่านห้าสิบหูติดกับขอบม่านด้านนอกสุดชุดที่หนึ่ง และอีกห้าสิบหูติดกับขอบม่านด้านนอกสุดชุดที่สอง
11
“แล้วเจ้าจงทำขอทองสัมฤทธิ์ห้าสิบขอ และจงเกี่ยวขอเข้าที่หูม่าน และจงโยงเต็นท์ให้ติดกันเป็นหลังเดียว
12
ม่านเต็นท์ส่วนที่เกินอยู่ คือม่านครึ่งหนึ่งที่เหลืออยู่นั้น จงให้ห้อยลงมาด้านหลังพลับพลา
13
ส่วนม่านคลุมพลับพลาซึ่งยาวเกินไปข้างละครึ่งเมตรนั้น ให้ห้อยลงมาข้างๆ พลับพลาทั้งข้างนี้และข้างโน้น สำหรับใช้กำบัง
14
เจ้าจงทำผ้าคลุมเต็นท์ด้วยหนังแกะตัวผู้ย้อมสีแดง และคลุมด้วยหนังอย่างดีดูเชิงอรรถ อพย.25:5อีกชั้นหนึ่ง
15
กรอบไม้ “เจ้าจงทำกรอบไม้สำหรับพลับพลานั้นจากไม้กระถินเทศที่ตั้งตรง
16
กรอบไม้นั้นให้ยาว 4 เมตร กว้าง 66 เซนติเมตร
17
ให้กรอบไม้แต่ละอันมีสองเดือยเพื่อให้ยึดติดกันและกัน และเจ้าจงทำกรอบไม้ทุกอันของพลับพลาอย่างนั้น
18
เจ้าจงทำกรอบไม้สำหรับพลับพลาดังนี้ ด้านใต้ให้ทำยี่สิบอัน
19
จงทำฐานรองรับเดือยด้วยเงินจำนวนสี่สิบฐานใต้กรอบไม้ยี่สิบอัน ใต้กรอบไม้อันหนึ่งให้มีฐานรองรับเดือยสองฐาน สำหรับสวมเดือยสองอัน
20
ด้านที่สองของพลับพลาข้างทิศเหนือนั้น ให้ใช้กรอบไม้ยี่สิบอัน
21
และฐานเงินรองรับเดือยสี่สิบฐาน ใต้กรอบไม้แต่ละอันจะมีฐานรองรับเดือยสองฐาน
22
ส่วนด้านหลังของพลับพลาข้างทิศตะวันตก เจ้าจงทำกรอบไม้หกอัน
23
และทำอีกสองอันสำหรับมุมพลับพลาด้านหลัง
24
ข้างล่างของกรอบให้จับเป็นคู่ๆ โดยตอนบนยอดให้ติดกันแปลได้อีกว่า กรอบไม้คู่นี้ให้ติดกันตั้งแต่ล่างจดบนที่ห่วงแรก ทั้งสองแห่งให้ทำเช่นเดียวกัน ก็จะทำให้เกิดมุมสองมุม
25
ดังนั้นจะมีกรอบไม้แปดอันพร้อมกับฐานเงินรองรับเดือยสิบหกฐาน ใต้กรอบไม้แต่ละอันมีฐานรองรับอยู่สองฐาน
26
“เจ้าจงทำกลอนห้าอันจากไม้กระถินเทศสำหรับกรอบไม้ฝาพลับพลาด้านหนึ่ง
27
และอีกห้าอันสำหรับกรอบไม้ฝาพลับพลาอีกด้านหนึ่ง และสุดท้ายอีกห้าอันสำหรับกรอบไม้ฝาพลับพลาด้านหลัง คือด้านตะวันตก
28
กลอนอันกลางซึ่งอยู่ตอนกลางของกรอบไม้นั้นให้ร้อยติดกันจากปลายด้านหนึ่งถึงปลายอีกด้านหนึ่ง
29
เจ้าจงหุ้มกรอบไม้เหล่านั้นด้วยทองคำ และทำห่วงทองคำสำหรับร้อยกลอน และเจ้าจงหุ้มกลอนเหล่านั้นด้วยทองคำ
30
และเจ้าจงตั้งพลับพลานั้นตามรูปแบบที่เราแจ้งแก่เจ้าแล้วบนภูเขา
31
ม่าน “จงทำม่านผืนหนึ่ง ทอด้วยด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้ม และด้วยผ้าป่านเนื้อดี เจ้าจงปักภาพเครูบที่ออกแบบไว้ที่ม่านนั้นแปลได้อีกว่า จงให้ช่างฝีมือปักภาพเครูบที่ม่านนั้น
32
และเจ้าจงแขวนม่านนั้นด้วยขอทองคำไว้ที่เสาไม้กระถินเทศสี่เสาที่หุ้มด้วยทองคำ และที่ตั้งอยู่บนฐานเงินสี่ฐาน
33
และเจ้าจงแขวนม่านนั้นไว้กับขอสำหรับเกี่ยวม่าน แล้วเอาหีบแห่งสักขีพยานเข้ามาไว้ข้างในหลังม่าน และม่านนั้นจะแบ่งพลับพลาเป็นสองส่วนคือ วิสุทธิสถานกับอภิสุทธิสถานฮบ.6:19; 9:3-5
34
และเจ้าจงตั้งพระที่นั่งกรุณานั้นไว้บนหีบแห่งสักขีพยานในอภิสุทธิสถาน
35
และเจ้าจงตั้งโต๊ะขนมปังเฉพาะพระพักตร์ไว้ข้างนอกม่าน และจงตั้งคันประทีปไว้ตรงข้ามกับโต๊ะนั้นทางด้านใต้ของพลับพลา เจ้าจงตั้งโต๊ะไว้ทางด้านเหนือ
36
“เจ้าจงทำม่านบังตาที่ประตูเต็นท์นั้นด้วยด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้ม และด้วยผ้าป่านเนื้อดี ตกแต่งด้วยงานปัก
37
และจงทำเสาห้าต้นจากไม้กระถินเทศสำหรับติดม่านบังตาที่ประตู แล้วจงหุ้มเสาเหล่านั้นด้วยทองคำ ส่วนขอสำหรับแขวนที่เสานั้นๆ จงทำด้วยทองคำ แล้วจงหล่อฐานทองสัมฤทธิ์ห้าฐานสำหรับรองรับเสานั้น