1
หนังสือม้วนและพระเมษโปดก และในพระหัตถ์เบื้องขวาของพระองค์ผู้ประทับบนพระที่นั่งนั้น ข้าพเจ้าได้เห็นหนังสือม้วนหนึ่งเขียนไว้ทั้งข้างในและข้างนอก อสค. 2:9-10; อสย. 29:11 มีตราประทับอยู่เจ็ดดวง2
และข้าพเจ้าได้เห็นทูตสวรรค์ที่มีฤทธิ์องค์หนึ่ง ประกาศด้วยเสียงอันดังว่า “ใครเป็นผู้ที่สมควรจะแกะตราและคลี่หนังสือม้วนนั้นออก”3
และไม่มีผู้ใดในสวรรค์ บนแผ่นดินโลก หรือใต้แผ่นดินที่สามารถคลี่หนังสือม้วนนั้นออก หรือดูหนังสือนั้นได้4
และข้าพเจ้าก็ร่ำไห้ เพราะไม่มีผู้ใดสมควรจะคลี่หนังสือม้วนนั้นออกหรือดูหนังสือนั้นได้5
และมีผู้หนึ่งในพวกผู้อาวุโสนั้น บอกแก่ข้าพเจ้าว่า “อย่าร้องไห้เลย นี่แน่ะ สิงห์แห่งเผ่ายูดาห์ ปฐก. 49:9 เชื้อสายของดาวิด อสย. 11:1, 10 พระองค์ทรงมีชัยแล้ว พระองค์จึงทรงสามารถแกะตราทั้งเจ็ดดวงและคลี่หนังสือม้วนนั้นออกได้”6
และระหว่างพระที่นั่งกับสัตว์ทั้งสี่นั้น และท่ามกลางพวกผู้อาวุโส ข้าพเจ้าแลเห็นพระเมษโปดกประทับยืนอยู่ประหนึ่งทรงถูกปลงพระชนม์ อสย. 53:7 พระเมษโปดกทรงมีเขาเจ็ดเขาและมีตาเจ็ดดวง ศคย. 4:10 ซึ่งเป็นวิญญาณทั้งเจ็ดของพระเจ้า ที่ทรงส่งออกไปทั่วแผ่นดินโลก7
และพระเมษโปดกนั้นได้เข้ามารับม้วนหนังสือจากพระหัตถ์เบื้องขวาของพระองค์ ผู้ประทับบนพระที่นั่งนั้น8
เมื่อพระองค์ทรงรับหนังสือนั้นแล้ว สัตว์ทั้งสี่กับผู้อาวุโสยี่สิบสี่คนนั้น ก็ทรุดตัวลงถวายบังคมพระเมษโปดก ทุกคนถือพิณและถือขันทองคำบรรจุเครื่องหอม ซึ่งเป็นคำอธิษฐานของธรรมิกชนทั้งปวง สดด. 141:29
และเขาทั้งหลายก็ร้องเพลงใหม่ สดด. 33:3; 98:1; อสย. 42:10 ว่าดังนี้“พระองค์ทรงเป็นผู้ที่สมควรจะทรงรับม้วนหนังสือ และแกะตราม้วนหนังสือนั้นออกเพราะว่าพระองค์ทรงถูกปลงพระชนม์แล้ว และด้วยพระโลหิตของพระองค์นั้นพระองค์ได้ทรงไถ่คนทุกเผ่า ทุกภาษา ทุกชาติและทุกประเทศเพื่อถวายแด่พระเจ้า10
พระองค์ได้ทรงโปรดให้เขาเป็นราชอาณาจักร และเป็นปุโรหิตของพระเจ้าของเรา อพย. 19:6; วว. 1:6และพวกเขาจะได้ครอบครองแผ่นดินโลก”11
แล้วข้าพเจ้าก็มองดู และข้าพเจ้าได้ยินเสียงทูตสวรรค์เป็นอันมากนับเป็นโกฏิๆ เป็นแสนๆ ดนล. 7:10 ซึ่งอยู่ล้อมรอบพระที่นั่งรอบสัตว์และผู้อาวุโสทั้งหลายนั้น12
ร้องเสียงดังว่า “พระเมษโปดกผู้ทรงถูกปลงพระชนม์แล้วนั้น เป็นผู้ที่สมควรได้รับฤทธิ์เดช ทรัพย์สมบัติ ปัญญา อานุภาพ เกียรติ พระสิริ และคำสดุดี”13
และข้าพเจ้าได้ยินเสียงสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ทั้งในสวรรค์ ในแผ่นดินโลก ใต้แผ่นดิน ในมหาสมุทร บรรดาที่อยู่ในที่เหล่านั้น ร้องว่า “ขอให้คำสดุดีและเกียรติ และพระสิริและฤทธิ์เดช จงมีแด่พระองค์ผู้ประทับบนพระที่นั่ง และแด่พระเมษโปดกตลอดไปเป็นนิตย์”14
และสัตว์ทั้งสี่นั้นก็ร้องว่า “อาเมน แปลว่า ให้เป็นไปดังนั้นเถิด” และผู้อาวุโสเหล่านั้นก็ทรุดตัวลงกราบนมัสการ