โย‌ชู‌วา-22

(พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 แท่นข้างแม่น้ำจอร์แดน คราวนั้นโยชูวาได้เรียกคนรูเบน คนกาด คนมนัสเสห์ครึ่งเผ่ามา
  • 2 และกล่าวแก่เขาทั้งหลายว่า “ท่านทั้งหลายได้ทำทุกอย่าง ซึ่งโมเสสผู้รับใช้ของพระเจ้าบัญชาท่านไว้ และได้ฟังเสียงของข้าพเจ้าในสารพัดซึ่ง ข้าพเจ้าได้บัญชาท่าน กดว. 32:20-32; ยชว. 1:12-15
  • 3 นานวันแล้วจนบัดนี้ ท่านมิได้ทอดทิ้งญาติพี่น้องของท่าน แต่ได้ระมัดระวังที่จะกระทำตาม พระบัญชาของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน
  • 4 บัดนี้พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ได้โปรดให้พี่น้องของท่านหยุดพักแล้ว ดังที่พระองค์ทรงสัญญาไว้กับเขา เหตุฉะนี้ท่านจงกลับบ้านของท่านเถิด ไปสู่แผ่นดินซึ่งท่านถือกรรมสิทธิ์ซึ่ง โมเสสผู้รับใช้ของพระเจ้ายกให้ ท่านที่ฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนนั้น
  • 5 แต่จงระวังให้มากที่จะปฏิบัติตามพระบัญญัติ และกฎหมายซึ่งโมเสสผู้รับใช้ของพระเจ้าบัญชาท่านไว้ คือที่จะรักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน และดำเนินในพระมรรคาทั้งสิ้นของพระองค์ และรักษาพระบัญญัติของพระองค์ และติดพันอยู่กับพระองค์ และปรนนิบัติพระองค์ด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน”
  • 6 โยชูวาจึงได้อวยพรเขาและส่งเขากลับไป ยังบ้านของเขาทุกคน
  • 7 ส่วนคนมนัสเสห์ครึ่ง เผ่านั้นโมเสสได้มอบให้เขาถือกรรมสิทธิ์ในเมืองบาชาน แต่อีกครึ่งเผ่านั้น โยชูวามอบให้เขามีกรรมสิทธิ์ข้างเคียงกับพี่น้องของ เขาที่ฟากแม่น้ำจอร์แดนด้านตะวันตก และเมื่อโยชูวาส่งเขากลับไปบ้านท่านได้อวยพรเขา
  • 8 กล่าวแก่เขาว่า “จงกลับไปบ้านของท่านทั้งหลายพร้อมกับทรัพย์สมบัติมั่งคั่ง มีฝูงสัตว์มากมาย มีเงิน ทองคำ ทองสัมฤทธิ์และเหล็ก และเสื้อผ้าเป็นอันมาก จงแบ่งของที่ริบมาจากศัตรูของท่านให้แก่พี่น้องของท่าน”
  • 9 คนรูเบน คนกาด และคนมนัสเสห์ครึ่งเผ่าได้แยกจากคนอิสราเอลที่ชิโลห์ ซึ่งอยู่ในแผ่นดินคานาอัน กลับไปบ้านของตนซึ่งอยู่ในแผ่นดินกิเลอาด เป็นแผ่นดินของเขา ซึ่งเขาได้เข้าตั้งอยู่ตามพระบัญชาของพระเจ้าโดยโมเสส
  • 10 และเมื่อเขาทั้งหลายมาถึงท้องถิ่นที่ใกล้แม่น้ำจอร์แดนที่อยู่ ในแผ่นดินคานาอัน คนรูเบน คนกาด และคนมนัสเสห์ครึ่งเผ่า ได้สร้างแท่นบูชาแท่นหนึ่งที่ใกล้แม่น้ำจอร์แดน เป็นแท่นขนาดมหึมา
  • 11 และคนอิสราเอลได้ยินคนพูดกัน “ดูเถิด คนรูเบน คนกาดและคนมนัสเสห์ครึ่งเผ่า ได้สร้างแท่นบูชาที่พรมแดนแผ่นดิน คานาอันในท้องถิ่นใกล้แม่น้ำจอร์แดน ในด้านที่เป็นของคนอิสราเอล”
  • 12 และเมื่อคนอิสราเอลได้ยินเช่นนั้น ชุมนุมชนอิสราเอลทั้งหมดก็ไปรวมกันที่เมืองชิโลห์ เพื่อจะขึ้นไปทำสงครามกับเขา
  • 13 แล้วคนอิสราเอลจึงใช้ฟีเนหัสบุตรเอเลอาซาร์ปุโรหิต ไปยังคนรูเบน คนกาด และคนมนัสเสห์ครึ่งเผ่าในแผ่นดินกิเลอาด
  • 14 พร้อมกับเจ้านายสิบคน คนหนึ่งจากแต่ละเผ่าในอิสราเอล ทุกคนเป็นหัวหน้าครอบครัวในตระกูลของอิสราเอล
  • 15 เมื่อเขามาถึงคนรูเบน คนกาด และคนมนัสเสห์ครึ่งเผ่าในแผ่นดินกิเลอาด เขาก็กล่าวแก่พวกเหล่านั้นว่า
  • 16 “ชุมนุมชนทั้งสิ้นของพระเจ้ากล่าวดังนี้ว่า ‘ท่านทั้งหลายได้กระทำการทรยศอะไรเช่นนี้ต่อพระเจ้า ของอิสราเอลหนอ ซึ่งในวันนี้ท่านทั้งหลายได้หันกลับจากติดตามพระเจ้า โดยท่านได้สร้างแท่นบูชาสำหรับตัวเป็นการกบฏต่อพระเจ้า ในวันนี้ ฉธบ. 12:6
  • 17 กรรมบาปซึ่งเราทำที่เมืองเปโอร์นั้นยังไม่พอเพียงหรือ ซึ่งจนกระทั่งวันนี้ เรายังชำระตัวของเราให้สะอาดไม่หมดเลย และซึ่งเป็นเหตุให้ภัยพิบัติเกิดแก่ชุมนุมชนของ พระเจ้า กดว. 25:1-9
  • 18 ในวันนี้ท่านทั้งหลายจะหันไปเสียจากการติดตามพระเจ้าหรือ ถ้าท่านทั้งหลายกบฏต่อพระเจ้าในวันนี้ พระองค์จะทรงกริ้วต่อชุมนุมชนอิสราเอล ทั้งหมดในวันในพรุ่ง
  • 19 แต่ถ้าแผ่นดินของท่านไม่สะอาดจงข้าม ไปในแผ่นดินของพระเจ้า ซึ่งเป็นที่ตั้งแห่งพลับพลาของพระเจ้า และมาถือกรรมสิทธิ์อยู่ท่ามกลางพวกเราเถิด ขอแต่เพียงอย่ากบฏต่อพระเจ้าหรือกบฏต่อเรา โดยที่ท่านทั้งหลายสร้างแท่นบูชาสำหรับตัวนอกจาก แท่นบูชาแห่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราทั้งหลาย
  • 20 อาคานบุตรเศราห์ได้ประพฤติอสัตย์ใน เรื่องของถวายนั้นไม่ใช่หรือ พระพิโรธก็ตกเหนือชุมนุมชนอิสราเอล เขามิได้พินาศแต่คนเดียวในเรื่องกรรมบาป ของเขา ยชว. 7:1-26’ ”
  • 21 ขณะนั้นคนรูเบน คนกาด และคนมนัสเสห์ครึ่งเผ่าได้ตอบผู้หัวหน้าของ ตระกูลอิสราเอลว่า
  • 22 “องค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ คือพระเจ้าพระเยโฮวาห์ องค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์คือพระเจ้าพระเยโฮวาห์ พระองค์ทรงทราบ และอิสราเอลจะทราบเสียด้วย ถ้าว่าเป็นการกบฏหรือประพฤติอสัตย์ต่อพระเจ้า ก็ขออย่าไว้ชีวิตพวกเราในวันนี้เลย
  • 23 ที่ว่าเราได้สร้างแท่นบูชานั้นเพื่อหันจากติดตามพระเจ้า หรือพวกเราได้สร้างไว้เพื่อถวายเครื่องเผาบูชาหรือธัญญบูชา หรือถวายสัตว์เป็นศานติบูชาบนแท่นนั้น ขอพระเจ้าทรงลงโทษเถิด
  • 24 เปล่าเลย แต่พวกเราได้สร้างไว้ด้วยเกรงว่าในเวลาต่อไป ภายหน้าลูกหลานของท่านอาจจะกล่าวต่อลูกหลานของเราว่า ‘เจ้ามีส่วนเกี่ยวพันอะไรกับพระเยโฮวาห์พระเจ้า ของอิสราเอล
  • 25 เพราะว่าพระเจ้าทรงกำหนดแม่น้ำจอร์แดนเป็นพรมแดนระหว่าง เรากับเจ้าทั้งหลายนะ คนรูเบน และคนกาดเอ๋ย พวกเจ้าไม่มีส่วนในพระเจ้า’ ดังนั้นแหละลูกหลานของท่านอาจกระทำให้ลูกหลานของ เราทั้งหลายหยุดเกรงกลัวพระเจ้า
  • 26 เพราะฉะนั้นเราจึงว่า ‘ให้เราสร้างแท่นบัดนี้ มิใช่สำหรับถวายเครื่องเผาบูชาหรือเครื่องสัตวบูชาใดๆ
  • 27 แต่เพื่อเป็นพยานระหว่างเรากับท่านทั้งหลาย และระหว่างคนชั่วอายุต่อจากเราว่า เราทั้งหลายจะกระทำการปรนนิบัติ พระเจ้าต่อพระพักตร์ของพระองค์ด้วย เครื่องเผาบูชาและเครื่องสัตวบูชา และเครื่องศานติบูชา ด้วยเกรงว่าลูกหลานของท่านจะ กล่าวแก่ลูกหลานของเราในเวลาต่อไปว่า “เจ้าไม่มีส่วนในพระเจ้า” ’
  • 28 และเราคิดว่าถ้ามีใครพูดเช่นนี้กับเรา หรือกับชาติพันธุ์ของเราในเวลาข้างหน้า เราก็จะกล่าวว่า ‘ดูเถิด นั่นเป็นแท่นจำลองของแท่นแห่งพระเจ้า ปู่ย่าตายายของเรากระทำไว้มิใช่ เพื่อถวายเครื่องเผาบูชาหรือเครื่องสัตวบูชา แต่เพื่อเป็นพยานระหว่างเรากับท่าน’
  • 29 ขอให้เรื่องนี้ห่างจากเราเถิด คือที่จะกบฏต่อพระเจ้า และหันจากติดตามพระเจ้าเสียในวันนี้ โดยสร้างแท่นอื่นสำหรับเครื่องเผาบูชาธัญญบูชา เครื่องสัตวบูชา นอกจากแท่นพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราซึ่งตั้งอยู่ที่หน้า พลับพลาของพระองค์”
  • 30 เมื่อฟีเนหัสปุโรหิตและเจ้านายของชุมนุมชน และหัวหน้าตระกูลของอิสราเอลที่อยู่ด้วย กันนั้นได้ยินถ้อยคำที่คนรูเบน คนกาด และคนมนัสเสห์กล่าว ก็รู้สึกเป็นที่พอใจมาก
  • 31 ฟีเนหัสบุตรของเอเลอาซาร์ปุโรหิตจึงกล่าวแก่คนรูเบน คนกาด และคนมนัสเสห์ว่า “วันนี้เราทราบแล้วว่าพระเจ้าทรงสถิตท่ามกลางพวกเรา เพราะท่านทั้งหลายมิได้กระทำการทรยศต่อพระเจ้า ท่านได้ช่วยให้ชนอิสราเอลพ้นจากพระหัตถ์ของพระเจ้า”
  • 32 แล้วฟีเนหัสบุตรเอเลอาซาร์ปุโรหิต และผู้หัวหน้าทั้งหลายก็กลับจากคนรูเบน และคนกาด จากแผ่นดินกิเลอาดไปยังแผ่นดินคานาอัน ไปหาคนอิสราเอลแจ้งข่าวให้เขาทราบ
  • 33 รายงานนั้นเป็นที่พอใจคนอิสราเอลและคน อิสราเอลก็สรรเสริญพระเจ้า และไม่พูดถึงเรื่องที่จะกระทำสงครามกับเขา เพื่อทำลายแผ่นดินซึ่งคนรูเบน คนกาดได้อาศัยอยู่นั้นอีกเลย
  • 34 คนรูเบนและคนกาดเรียกแท่นนั้นว่า แท่นพยาน เขากล่าวว่า แท่นนั้นเป็นพยานในระหว่างเราว่า พระเยโฮวาห์เป็นพระเจ้า
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页