กิจการ​ของ​อัครทูต-5

(พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 อานาเนียกับสัปฟีรา แต่มีชายคนหนึ่ง ชื่ออานาเนียกับภรรยาชื่อสัปฟีรา ได้ขายที่ดินของตน
  • 2 และเงินค่าที่ดินส่วนหนึ่งเขายักเก็บไว้ ภรรยาของเขาก็รู้ด้วย และอีกส่วนหนึ่งเขานำมาวางไว้ที่เท้าของอัครทูต
  • 3 ฝ่ายเปโตรจึงถามว่า “อานาเนีย เหตุไฉนซาตาน ชื่อหนึ่งของมาร หมายความว่า ผู้ขัดขวาง (ปฏิปักษ์)จึงทำให้ใจของเจ้าเต็มไปด้วยการมุสาต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ และทำให้เจ้าเก็บค่าที่ดินส่วนหนึ่งไว้
  • 4 เมื่อที่ดินยังอยู่ก็เป็นของเจ้ามิใช่หรือ เมื่อขายแล้วเงินก็ยังอยู่ในอำนาจของเจ้ามิใช่หรือ มีเหตุอะไรเกิดขึ้นให้เจ้าคิดในใจเช่นนั้นเล่า เจ้ามิได้มุสาต่อมนุษย์แต่ได้มุสาต่อพระเจ้า”
  • 5 เมื่ออานาเนียได้ยินคำเหล่านั้น ก็ล้มลงตาย และเมื่อคนทั้งปวงทราบเรื่องก็พากันสะดุ้งตกใจกลัวอย่างยิ่ง
  • 6 พวกคนหนุ่มก็ลุกขึ้นห่อศพเขาไว้แล้วหามเอาไปฝัง
  • 7 หลังจากนั้นประมาณสามชั่วโมง ภรรยาของเขายังไม่ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเข้าไป
  • 8 ฝ่ายเปโตรถามนางว่า “เจ้าขายที่ดินได้ราคาเท่านั้นหรือจงบอกเราเถิด” หญิงนั้นจึงตอบว่า “ได้เท่านั้นเจ้าค่ะ”
  • 9 เปโตรจึงถามนางว่า “ไฉนเจ้าทั้งสองได้พร้อมใจกันทดลองพระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าเล่า จงดูเถิด เท้าของพวกคนที่ฝังศพสามีของเจ้าก็อยู่ที่ประตู และเขาจะหามศพของเจ้าออกไปด้วย”
  • 10 ในทันใดนั้นนางก็ล้มลงตายแทบเท้าของเปโตร และพวกคนหนุ่มได้เข้ามาเห็นว่าหญิงนั้นตายแล้ว จึงได้หามศพออกไปฝังไว้ข้างสามีของนาง
  • 11 ความเกรงกลัวอย่างยิ่งเกิดขึ้นในคริสตจักร และในหมู่คนทั้งปวงที่ได้ยินเหตุการณ์นั้น
  • 12 ทำหมายสำคัญและการอัศจรรย์หลายอย่าง มีหมายสำคัญและการอัศจรรย์หลายอย่าง ซึ่งอัครทูตได้ทำด้วยมือของตนในหมู่ประชาชน พวกสาวกอยู่พร้อมกันในเฉลียงของซาโลมอน
  • 13 คนอื่นๆไม่อาจเข้ามาอยู่ด้วย แต่ประชาชนเคารพอัครทูตมาก
  • 14 มีชายหญิงเป็นอันมากที่เชื่อถือ ได้เข้ามาเป็นสาวกของพระเจ้ามากกว่าก่อน
  • 15 จนเขาหามคนเจ็บป่วยออกไปที่ถนนวางบนที่นอนและแคร่ เพื่อเมื่อเปโตรเดินผ่านไป อย่างน้อยเงาของท่านจะได้ถูกเขาบางคน
  • 16 ประชาชนได้ออกมาจากเมืองที่อยู่ล้อมรอบกรุงเยรูซาเล็ม พาคนป่วยและคนที่มีผีโสโครกเบียดเบียนมา และทุกคนก็หาย
  • 17 อัครทูตถูกข่มเหง ฝ่ายมหาปุโรหิตและพรรคพวกของท่านคือพวกสะดูสี มีความอิจฉาอย่างยิ่ง
  • 18 จึงได้จับพวกอัครทูตจำไว้ในคุกหลวง
  • 19 แต่ในเวลากลางคืนทูตองค์หนึ่งของพระเจ้า ได้มาเปิดประตูคุก พาพวกอัครทูตออกไป บอกว่า
  • 20 “จงไปยืนในบริเวณพระวิหาร ประกาศบรรดาข้อความแห่งชีวิตใหม่นี้ให้ประชาชนฟัง”
  • 21 เมื่ออัครทูตได้ยินอย่างนั้น พอรุ่งเช้าก็เข้าไปสั่งสอนในบริเวณพระวิหารต่อไปฝ่ายมหาปุโรหิตประจำการกับพรรคพวกของท่าน ได้เรียกประชุมคือพฤฒสภาทั้งหมดของชนอิสราเอล แล้วใช้คนไปที่คุกให้พาอัครทูตออกมา
  • 22 เจ้าพนักงานก็ไปแต่ไม่พบพวกอัครทูตในคุก จึงกลับมารายงานว่า
  • 23 “ข้าพเจ้าทั้งหลายเห็นคุกปิดอยู่มั่นคงและคนเฝ้าก็ยืนอยู่ที่ประตู ครั้นเปิดประตูเข้าไปก็ไม่เห็นผู้ใดอยู่ข้างใน”
  • 24 เมื่อนายทหารรักษาพระวิหารกับพวกมหาปุโรหิตได้ยินคำเหล่านี้ ก็ฉงนสนเท่ห์ในเรื่องของอัครทูตว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
  • 25 มีคนหนึ่งมาบอกเขาว่า “นี่แน่ะ คนเหล่านั้นซึ่งท่านทั้งหลายได้จำไว้ในคุก กำลังยืนสั่งสอนคนทั้งปวงอยู่ในบริเวณพระวิหาร”
  • 26 แล้วนายทหารรักษาพระวิหารกับพวกเจ้าพนักงาน จึงได้ไปพาพวกอัครทูตมาโดยดี เพราะกลัวว่าคนทั้งปวงจะเอาหินขว้าง
  • 27 เมื่อเขาได้พาพวกอัครทูตมาแล้วก็ให้ยืนหน้าสภา มหาปุโรหิตประจำการจึงถามว่า
  • 28 “เราได้กำชับพวกเจ้าอย่างแข็งแรงมิให้สอนออกชื่อนี้ ก็นี่แน่ะ เจ้าได้ให้คำสอนของเจ้าแพร่ไปทั่วกรุงเยรูซาเล็ม และปรารถนาให้ความผิดเนื่องด้วยความตายของผู้นั้นตกอยู่กับเรา มธ. 27:25”
  • 29 ฝ่ายเปโตรกับอัครทูตอื่นๆตอบว่า “ข้าพเจ้าจำต้องเชื่อฟังพระเจ้ายิ่งกว่าเชื่อฟังมนุษย์
  • 30 พระเยซูซึ่งท่านทั้งหลายได้ฆ่าเสียโดยแขวนไว้ที่ต้นไม้นั้น พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเราได้ทรงบันดาลให้เป็นขึ้นมาใหม่
  • 31 พระเจ้าได้ทรงตั้งพระองค์ไว้ที่พระหัตถ์เบื้องขวาของพระองค์ ให้เป็นองค์พระผู้นำและองค์พระผู้ช่วยให้รอด เพื่อจะให้ชนอิสราเอลกลับใจใหม่ แล้วจะทรงโปรดยกความบาปผิดของเขา
  • 32 เราทั้งหลายจึงเป็นพยานถึงเรื่องเหล่านี้ และพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งพระเจ้าได้ทรงประทานให้ทุกคนที่เชื่อฟังพระองค์นั้น ก็เป็นพยานด้วย”
  • 33 เมื่อเขาทั้งหลายได้ยินอย่างนี้โทโสก็พลุ่งขึ้น คิดกันว่าจะฆ่าพวกอัครทูตเสีย
  • 34 แต่คนหนึ่งชื่อกามาลิเอลเป็นพวกฟาริสีและเป็นบาเรียน เป็นที่นับถือของประชาชน ได้ยืนขึ้นในสภา แล้วสั่งให้พาพวกอัครทูตออกไปเสียภายนอกครู่หนึ่ง
  • 35 ท่านจึงได้กล่าวแก่เขาว่า “ท่านชนชาติอิสราเอล ซึ่งท่านหวังจะทำแก่คนเหล่านี้ จงระวังตัวให้ดี
  • 36 เมื่อคราวก่อนมีคนหนึ่งชื่อธุดาส อวดตัวว่าเป็นผู้วิเศษ มีผู้คนติดตามประมาณสี่ร้อย แต่ธุดาสถูกฆ่าเสีย คนที่เป็นพรรคพวกก็กระจัดกระจายสาปสูญไป
  • 37 ภายหลังผู้นี้มีอีกคนหนึ่งชื่อยูดาสเป็นชาวกาลิลี ได้ปรากฏขึ้นในคราวจดบัญชีสำมะโนครัว และได้เกลี้ยกล่อมผู้คนให้ติดตามตัวไป ผู้นั้นก็พินาศด้วย คนที่เป็นพรรคพวกก็กระจัดกระจายไป
  • 38 ในกรณีนี้ข้าพเจ้าจึงว่าแก่ท่านทั้งหลายว่า จงปล่อยคนเหล่านี้ไปตามเรื่อง อย่าทำอะไรแก่เขาเลย เพราะว่าถ้าความคิดหรือกิจการนี้ มาจากมนุษย์ก็จะล้มละลายไปเอง
  • 39 แต่ถ้ามาจากพระเจ้า ท่านทั้งหลายจะทำลายเสียก็ไม่ได้ เกลือกว่าท่านกลับจะเป็นผู้สู้รบกับพระเจ้า”
  • 40 เขาทั้งหลายจึงยอมฟังกามาลิเอล และเมื่อได้เรียกพวกอัครทูตเข้ามาแล้ว จึงเฆี่ยนและกำชับไม่ให้ออกพระนามของพระเยซู แล้วก็ปล่อยไป
  • 41 พวกอัครทูตจึงออกไปให้พ้นหน้าสภาด้วยความยินดี ที่เห็นว่าตนสมจะได้รับการหลู่เกียรติเพราะพระนามนั้น
  • 42 ที่ในบริเวณพระวิหารและตามบ้านเรือน เขาได้สั่งสอนและประกาศข่าวประเสริฐทุกๆวันมิได้ขาด ว่าพระเยซูทรงเป็นพระคริสต์
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页