1
“โอ ปุโรหิตทั้งหลาย บัดนี้ คำบัญชานี้มีอยู่เพื่อเจ้าทั้งหลาย2
พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า ถ้าเจ้าไม่ฟัง และถ้าเจ้าไม่จำใส่ไว้ในใจที่จะถวายศักดิ์ศรี แก่นามของเรา เราจะส่งคำแช่งมาเหนือเจ้า และเราจะสาปแช่งผลพระพรซึ่งมาถึงเจ้า เราได้สาปแช่งคำอวยพรของเจ้าแล้วนะ เพราะเจ้ามิได้จำใส่ใจไว้3
ดูเถิด เราจะขนาบลูกหลานของเจ้า และจะละเลงมูลสัตว์ใส่หน้าเจ้า คือมูลสัตว์ของเครื่องบูชาของเจ้า และเราจะไล่เจ้าออกไปเสียจากหน้าเราอย่างนั้นแหละ4
พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า เจ้าจึงจะทราบว่า เราส่งคำบัญชานี้มาให้เจ้า เพื่อว่าพันธสัญญาของเราซึ่งทำไว้ กับเลวีจะคงอยู่ กดว. 3:11-135
พันธสัญญาของเราซึ่งมีไว้กับเขานั้น เป็นพันธสัญญาเรื่องชีวิตและสันติภาพ กดว. 25:12 เราได้ให้สิ่งเหล่านี้แก่เขา เพื่อเขาจะได้ยำเกรงและเขาได้ยำเกรงเรา และเกรงขามนามของเรา6
ในปากของเขามีคำสั่งสอนที่จริง จะหาความผิดที่ริมฝีปากของเขาไม่ได้เลย เขาดำเนินกับเราด้วยสันติและความเที่ยงตรง และเขาได้หันหลายคนให้พ้นจากความบาปผิด7
เพราะว่าริมฝีปากของปุโรหิตควรเป็นยามความรู้ และมนุษย์ควรแสวงหาคำสั่งสอนจากปากของเขา เพราะว่าเขาเป็นทูตของพระเจ้าจอมโยธา8
แต่เจ้าเองได้หันไปเสียจากทางนั้น เจ้าเป็นเหตุให้หลายคนสะดุด เพราะคำสั่งสอนของเจ้า พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า เจ้าได้กระทำให้พันธสัญญาของเลวีเสื่อมไป9
ดังนั้นเราจึงกระทำให้เจ้าเป็นที่ดูหมิ่นและเหยียดหยาม ต่อหน้าประชาชนทั้งปวง ให้สมกับที่เจ้ามิได้รักษาบรรดาวิถีทางของเรา แต่ได้แสดงอคติในการสั่งสอนของเจ้า”10
ทรงขนาบความไม่ซื่อสัตย์ของอิสราเอล เราทุกคนมิได้มีบิดาคนเดียวดอกหรือ พระเจ้าองค์เดียวได้ทรงสร้างเรามิใช่หรือ แล้วทำไมเราจึงทรยศต่อกันและกัน กระทำให้พันธสัญญาของบรรพบุรุษของเราสาธารณ์11
ยูดาห์ก็ทรยศ การน่าเกลียดน่าชังเขาก็ทำกันในอิสราเอล และในเยรูซาเล็ม เพราะว่ายูดาห์ได้กระทำให้สถานศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า ซึ่งพระองค์ทรงรักนั้นสาธารณ์ และได้ไปแต่งงานกับบุตรีของพระต่างด้าว12
ขอพระเจ้าทรงกำจัดชายคนใดๆ ที่กระทำเช่นนี้ทั้งครอบครัวเสียจากเต็นท์ของยาโคบ ถึงแม้ว่าเขาจะนำเครื่องบูชาถวายแด่พระเจ้าจอมโยธา ก็ตามเถิด13
และเจ้าได้กระทำอย่างนี้อีกด้วย คือเจ้าเอาน้ำตารดทั่วแท่นบูชาของพระเจ้า ด้วยเหตุเจ้าได้ร้องไห้คร่ำครวญเพราะพระเจ้าไม่ สนพระทัยหรือรับเครื่องบูชาด้วยชอบพระทัยจากมือของเจ้าอีกแล้ว14
เจ้าถามว่า “เหตุใดพระองค์จึงไม่รับ” เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นพยานระหว่างเจ้ากับภรรยา คนที่เจ้าได้เมื่อหนุ่มนั้น แม้ว่านางเป็นคู่เคียงของเจ้าและเป็นภรรยาของ เจ้าตามพันธสัญญา เจ้าก็ทรยศต่อนาง15
แต่ไม่มีสักคนหนึ่งที่มีสติจะกระทำอย่างนี้ ผู้มีสตินั้นย่อมประสงค์สิ่งใด ย่อมประสงค์ลูกหลานที่เชื่อฟังพระเจ้า ดังนั้นจงระวังตัวให้ดี อย่าให้ผู้ใดทรยศต่อภรรยาคนที่ได้เมื่อหนุ่มนั้น16
พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอลตรัสว่า “เพราะว่าเราเกลียดชังการหย่าร้าง และการที่ใครกระทำทารุณต่อภรรยาของตน” พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้แหละ เพราะฉะนั้น จงระวังตัวให้ดี อย่าเป็นคนทรยศ”17
วันพิพากษาใกล้เข้ามาแล้ว เจ้าได้กระทำให้พระเจ้าอ่อนระอาพระทัยด้วยคำพูดของเจ้า เจ้ายังจะกล่าวว่า “เราทั้งหลายกระทำให้พระองค์อ่อนพระทัยสถานใด” ก็ด้วยกล่าวว่า “ทุกคนที่กระทำความชั่วก็เป็นคนดีในสายพระเนตรพระเจ้า และพระองค์ทรงพอพระทัยคนเหล่านั้น” หรือโดยถามว่า “พระเจ้าแห่งความยุติธรรมอยู่ที่ไหน”