ปัญ‌ญา‌จารย์-7

(พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 ความประเสริฐของสติปัญญา ชื่อเสียงดีก็ประเสริฐกว่าน้ำมันหอมอย่าง วิเศษ สภษ. 22:1 และวันตายก็ดีกว่าวันเกิด
  • 2 ไปยังเรือนที่มีการไว้ทุกข์ก็ดีกว่าไปยังเรือนที่มีการเลี้ยงกันเพราะนั่นเป็นวาระสุดท้ายของมนุษย์ทั้งปวงและผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่จะเอาเหตุการณ์นั้นใส่ไว้ในใจ
  • 3 ความโศกเศร้าก็ดีกว่าการหัวเราะเพราะความโศกเศร้าในใบหน้า ทำให้จิตใจยินดี
  • 4 จิตใจของคนที่มีสติปัญญาย่อมอยู่ในเรือนที่มีความโศกเศร้าแต่จิตใจของคนเขลา ย่อมอยู่ในเรือนที่มีการสนุกสนาน
  • 5 ฟังคำตำหนิของคนที่มีสติปัญญายังดีกว่าฟังเพลงของคนเขลา
  • 6 มีเสียงแตกของเรียวหนามอยู่ใต้หม้อฉันใดเสียงหัวเราะของคนเขลาก็ฉันนั้น นี่ก็อนิจจังด้วย
  • 7 แท้จริงการกดขี่ข่มเหงกระทำให้ผู้มีสติปัญญาโง่ไปและสินบนก็กระทำให้ความเข้าใจเสียไป
  • 8 เบื้องปลายแห่งสิ่งใดๆก็ดีกว่าเบื้องต้นแห่งสิ่งนั้นๆมีใจอดกลั้นก็ดีกว่ามีใจอหังการ
  • 9 อย่าให้ใจของเจ้าโกรธเร็ว ยก. 1:19เพราะความโกรธมีประจำอยู่ในทรวงอกของคนเขลา
  • 10 อย่าว่า “อะไรหนอเป็นเหตุให้กาลก่อนดีกว่ากาลบัดนี้”เพราะที่เจ้าไต่ถามนั้นไม่ได้ถามด้วยสติปัญญา
  • 11 สติปัญญาประกอบกับมรดกก็เป็นของดีเป็นประโยชน์แก่คนที่ได้เห็นดวงตะวัน
  • 12 เงินเป็นเครื่องป้องกันฉันใด สติปัญญาก็เป็นเครื่องป้องกันฉันนั้นและผลประโยชน์ของความรู้ คือสติปัญญา ย่อมรักษาชีวิตของผู้ที่มีสติปัญญานั้น
  • 13 จงพิจารณาพระราชกิจของพระเจ้าสิ่งใดๆที่พระองค์ทรงกระทำให้คดอยู่แล้ว ใครจะเหยียดสิ่งนั้นๆให้ตรงได้เล่า
  • 14 เมื่อเวลามีความเจริญก็จงชื่นชมยินดี แต่เมื่อถึงเวลาอับจนก็จงพินิจพิจารณา พระเจ้าทรงบันดาลให้มีทั้งสองอย่าง เพื่อมนุษย์จะไม่ค้นได้ว่า เมื่อเขาล่วงไปแล้วจะมีอะไรมา
  • 15 ข้าพเจ้าเห็นสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้นในชีวิตอนิจจังของข้าพเจ้า คือคนชอบธรรมพินาศในความชอบธรรมของตัว และมีคนอธรรมมีชีวิตยืนยาวในการกระทำชั่ว
  • 16 อย่าเป็นคนชอบธรรมเกินไป และอย่าฉลาดเกินตัว เหตุใดเจ้าจะทำตัวให้พินาศเสียเล่า
  • 17 อย่าอธรรมมากนัก หรืออย่าเป็นคนเขลา ทำไมเจ้าจะไปตายเสียก่อนถึงวาระของเจ้าเล่า
  • 18 ก็ดีอยู่แล้วที่เจ้าจะยึดถือสิ่งเหล่านี้ไว้ เออ เจ้าอย่าแบมือปล่อยสิ่งนั้นให้หลุดลอยเสียทีเดียว เพราะว่าผู้ที่เกรงกลัวพระเจ้าจะพ้นจากบรรดาสิ่ง ที่กล่าวมานี้
  • 19 สติปัญญาเป็นกำลังแก่คนฉลาดดีกว่าผู้ครอบครอง สิบคนที่อยู่ในเมือง
  • 20 แน่ทีเดียวไม่มีคนชอบธรรมสักคนเดียวบนแผ่นดินโลก ที่ได้ประพฤติล้วนแต่ความดี และไม่กระทำบาปเลย
  • 21 อย่าสนใจฟังบรรดาถ้อยคำที่ใครๆกล่าว เกรงว่าเจ้าจะได้ยินทาสของเจ้าแช่งด่าตัวเจ้า
  • 22 ด้วยว่าเจ้าก็แจ้งอยู่กับใจของเจ้าเอง หลายครั้งหลายหนแล้วว่า ตัวเจ้าเองได้แช่งด่าคนอื่นเหมือนกัน
  • 23 การแสวงหาสติปัญญา บรรดาข้อความเหล่านี้ข้าพเจ้า ได้ชันสูตรดูด้วยใช้สติปัญญาแล้ว ข้าพเจ้าว่า “ข้าพเจ้าจะได้ปัญญา” แต่ปัญญานั้นกลับอยู่ห่างไกลจากข้าพเจ้า
  • 24 สิ่งที่เป็นอยู่ก็อยู่ไกล และที่ลึกก็ลึกล้ำเหลือเกิน ใครผู้ใดจะค้นออกมาได้
  • 25 ใจข้าพเจ้าหวนกลับมาเรียนรู้และเสาะกับแสวงหา สติปัญญา และมูลเหตุของสิ่งต่างๆ เพื่อให้รู้ว่าความอธรรมเป็นความเขลา และความเขลาเป็นความบ้าบอ
  • 26 ข้าพเจ้าได้พบอีกสิ่งหนึ่งซึ่งขมขื่นยิ่งกว่าความตาย คือผู้หญิงที่มีใจเป็นบ่วงแร้วและข่าย มือของนางเป็นโซ่ตรวน คนใดเป็นคนที่พอพระทัยพระเจ้าคนนั้นจะหนีพ้นนาง แต่คนบาปจะถูกผู้หญิงคนนั้นจับเอาไป
  • 27 ปัญญาจารย์กล่าวว่า ดูเถิด ข้าพเจ้าพบดังต่อไปนี้ โดยเอาเรื่องหนึ่งมาประดิษฐ์ติดต่อเข้ากับอีกเรื่องหนึ่ง เพื่อหามูลเหตุ
  • 28 ซึ่งจิตใจของข้าพเจ้ายังกำลังหาแล้วหาอีก แต่ข้าพเจ้าหาได้พบปะไม่ ในชายพันคนจะพบชายจริง สักคนหนึ่ง แต่จะหาหญิงแท้สักคนหนึ่งในจำนวนพันคนก็หาไม่พบ
  • 29 ดูเถิด ข้าพเจ้าพบแต่ความนี้ต่างหาก คือพระเจ้าทรง สร้างมนุษย์ให้เป็นคนเที่ยงธรรม แต่มนุษย์ทั้งหลายได้ค้นคว้ากลอุบายต่างๆออกมา
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页