อพยพ-32

(พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 วัวทองคำ เมื่อประชาชนเห็นโมเสสล่าช้าอยู่ ไม่ลงมาจากภูเขา จึงได้พากันมาหาอาโรน เรียนว่า “ลุกขึ้น ขอท่านสร้างพระให้แก่พวกข้าพเจ้า ซึ่งจะนำพวกข้าพเจ้าไป ด้วยว่าโมเสสคนนี้ที่ได้นำ ข้าพเจ้าออกมาจากประเทศอียิปต์เป็นอะไรไปเสียแล้ว ข้าพเจ้าไม่ทราบ” กจ. 7:40
  • 2 ฝ่ายอาโรนได้กล่าวแก่เขาว่า “จงปลดตุ้มหูทองคำออกจากหูภรรยา และหูบุตรชายหญิงของเจ้าทั้งหลายแล้วนำมาให้เราเถิด”
  • 3 ประชาชนทั้งปวงจึงได้ปลดตุ้มหูทองคำจากหูของ ตนมามอบให้กับอาโรน
  • 4 เมื่ออาโรนได้รับทองคำจากมือเขาแล้ว จึงใช้เครื่องมือสลักหล่อรูปเป็นโคหนุ่ม กจ. 7:41 แล้วเขาทั้งหลายประกาศว่า “โอ อิสราเอล สิ่งเหล่านี้แหละเป็นพระของเจ้า ซึ่งนำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์”
  • 5 เมื่ออาโรนได้ยินดังนั้นแล้ว จึงสร้างแท่นบูชาไว้ ตรงหน้ารูปโคหนุ่มนั้น แล้วอาโรนประกาศว่า “พรุ่งนี้จะเป็นวันเทศกาลเลี้ยงถวายพระเจ้า”
  • 6 ครั้นรุ่งขึ้นเขาก็ตื่นขึ้นแต่เช้ามืดถวายเครื่องเผาบูชา และนำเครื่องศานติบูชามา ประชาชนก็นั่งลงกินและดื่มแล้วก็ลุกขึ้นเล่นสนุก กัน 1 คร. 10:7
  • 7 ฝ่ายพระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “เจ้าจงลงไปเถิด ด้วยว่าชนชาติของเจ้าซึ่งเจ้าได้นำออกจากแผ่นดินอียิปต์นั้น ได้ทำความเสื่อมเสียมากแล้ว
  • 8 เขาได้หันเหออกจากทางซึ่งเราสั่งเขาไว้อย่างรวดเร็ว คือหล่อรูปโคขึ้นรูปหนึ่งสำหรับตน และกราบไหว้รูปนั้น และถวายสัตวบูชาแก่รูปนั้น และกล่าวว่า ‘โอ อิสราเอล สิ่งเหล่านี้แหละเป็นพระของเจ้า ซึ่งนำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์’ ”
  • 9 แล้วพระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “เราเห็นประชากรนี้แล้ว นี่แหละเขาเป็นชนชาติหัวแข็ง
  • 10 เหตุฉะนี้เจ้าจงปล่อยเขาตามลำพัง เพื่อความพิโรธของเราจะเดือดพลุ่งขึ้นต่อเขา และเพื่อเราจะผลาญทำลายเขาเสีย ส่วนเจ้า เราจะให้เป็นประชาชาติใหญ่”
  • 11 ฝ่ายโมเสสก็วิงวอนกราบทูลพระเจ้าของท่านว่า “ข้าแต่พระเจ้า ไฉนพระองค์จึงทรงพระพิโรธต่อประชากรของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงนำออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ ด้วยฤทธานุภาพอันใหญ่ยิ่ง และด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระองค์เล่า
  • 12 เหตุไฉนจะให้ชนชาวอียิปต์กล่าวว่า ‘พระองค์ทรงนำเขาออกมาเพื่อจะทรงทำร้ายเขา เพื่อจะประหารชีวิตเขาที่ภูเขาและทำลายเขาเสียจากแผ่นดิน’ ขอพระองค์ทรงหันกลับเสียจากความพิโรธอันแรงกล้าของ พระองค์ และทรงกลับพระทัยอย่าทำอันตรายแก่ประชากรของ พระองค์เอง
  • 13 ขอพระองค์ได้ทรงระลึกถึง อับราฮัม อิสอัค และอิสราเอลผู้รับใช้ของพระองค์เป็นผู้ซึ่ง พระองค์ได้ทรงปฏิญาณแก่เขาเหล่านั้นไว้ว่า ‘เราจะให้เชื้อสายของเจ้าทวีขึ้นดุจดวงดาว ในท้องฟ้า ปฐก. 22:16-17 และแผ่นดินนี้ทั้งหมดซึ่งเราสัญญาไว้แล้ว เราจะยกให้แก่เชื้อสายของเจ้า และเขาจะรับไว้เป็นมรดกตลอดไป’ ” ปฐก. 17:8
  • 14 แล้วพระเจ้าจึงทรงกลับพระทัย มิได้ทรงทำอันตรายอย่างที่พระองค์ทรงดำริว่า จะกระทำแก่ประชากรของพระองค์ กดว. 14:13-19
  • 15 ฝ่ายโมเสสกลับลงมาจากภูเขาถือแผ่นศิลาพระโอวาท มาสองแผ่นซึ่งจารึกทั้งสองด้าน จารึกทั้งด้านนี้และด้านนั้น
  • 16 แผ่นศิลาเหล่านั้น เป็นงานจากฝีพระหัตถ์ของพระเจ้า และอักษรที่จารึกนั้น เป็นลายพระหัตถ์ของพระองค์สลักไว้บนแผ่นศิลานั้น
  • 17 เมื่อโยชูวาได้ยินเสียงประชาชนอื้ออึงอยู่ เขาจึงเรียนโมเสสว่า “ที่ค่ายมีเสียงเหมือนเกิดสงคราม”
  • 18 ฝ่ายโมเสสตอบว่า “ที่เราได้ยินมิใช่เสียงอื้ออึงของคนที่มีชัยชนะ และมิใช่เสียงคนที่แพ้ แต่เป็นเสียงคนร้องเพลงกัน”
  • 19 พอโมเสสเข้ามาใกล้ค่าย ได้เห็นรูปโคหนุ่ม และคนเต้นรำ โทสะของโมเสสก็เดือดพลุ่งขึ้น ท่านโยนแผ่นศิลาทิ้งตกแตกเสียที่เชิงภูเขานั่นเอง
  • 20 แล้วท่านเอารูปโคหนุ่มที่ประชาชนทำไว้นั้นเผาเสีย และบดเป็นผงโรยลงในน้ำ และบังคับให้ชนชาติอิสราเอลดื่มน้ำนั้น
  • 21 โมเสสจึงถามอาโรนว่า “ประชาชนนี้กระทำอะไรแก่ท่านเล่า ท่านจึงนำบาปอันใหญ่นี้มาสู่พวกเขา”
  • 22 ฝ่ายอาโรนตอบว่า “อย่าให้ความโกรธของเจ้านายของข้าพเจ้าเดือดพลุ่งขึ้นเลย ท่านก็รู้จักประชาชนพวกนี้แล้วว่า เขาเอนเอียงไปในทางชั่ว
  • 23 เขามาร้องขอข้าพเจ้าว่า ‘ขอจงทำพระให้พวกข้าพเจ้า ซึ่งจะนำพวกข้าพเจ้าไป ด้วยว่าโมเสสคนนี้ที่ได้ นำพวกข้าพเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์นั้น เกิดอะไรขึ้นกับเขา ข้าพเจ้าไม่ทราบ’
  • 24 แล้วข้าพเจ้าตอบแก่เขาว่า ‘ผู้ใดมีทองคำให้ปลดออกมา’ เขาก็มอบทองคำให้แก่ข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจึงโยนลงไปในไฟ แล้วโคนี้ก็ออกมา”
  • 25 เมื่อโมเสสเห็นประชาชนเตลิดไป (เพราะว่าอาโรนปล่อยเขาให้เตลิดไป จนเขารับคำเยาะเย้ย จากพวกศัตรู)
  • 26 แล้วโมเสสยืนอยู่ที่ประตูค่ายร้องว่า “ผู้ใดอยู่ฝ่ายพระเจ้า ให้ผู้นั้นมาหาเราเถิด” ฝ่ายบุตรหลานเลวีได้มาหาโมเสสพร้อมกัน
  • 27 โมเสสจึงกล่าวแก่เขาว่า “พระเจ้าของอิสราเอลตรัสสั่งดังนี้ว่า ‘จงเอาดาบสะพายทุกคน แล้วจงไปมาตามประตูค่ายทุกๆคน จงฆ่าพี่น้องและมิตรสหายและเพื่อนบ้านของตัวเอง’ ”
  • 28 ฝ่ายบุตรหลานของเลวีก็ทำตามโมเสสสั่ง และประชาชนประมาณสามพันคนตายลงในวันนั้น
  • 29 ด้วยโมเสสกล่าวไว้แล้วว่า “ในวันนี้ท่านทั้งหลายจงสถาปนาตัวเองรับใช้พระเจ้า จงให้ทุกคนสู้รบกับบุตรและพี่น้องของตน เพื่อวันนี้พระองค์จะได้อำนวยพระพรแก่ท่านทั้งหลาย”
  • 30 ครั้นวันรุ่งขึ้น โมเสสจึงกล่าวแก่ประชาชนว่า “ท่านทั้งหลายทำบาปอันใหญ่ยิ่ง แต่บัดนี้เราจะขึ้นไปเฝ้าพระเจ้า ชะรอยเราจะทำการลบมลทินบาปของท่านได้”
  • 31 โมเสสจึงกลับไปเฝ้าพระเจ้าทูลว่า “โอพระเจ้าข้า ประชากรนี้ทำบาปอันใหญ่ยิ่ง เขาทำพระด้วยทองคำสำหรับตัวเอง
  • 32 แต่บัดนี้ขอพระองค์โปรดยกโทษบาปของเขา ถ้าหาไม่ ขอพระองค์ทรงลบชื่อของข้าพระองค์ เสียจากทะเบียนที่พระองค์ทรงจดไว้” สดด. 69:28; วว. 3:5
  • 33 ฝ่ายพระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “ผู้ใดทำบาปต่อเราแล้ว เราจะลบชื่อผู้นั้นเสียจากทะเบียนของเรา
  • 34 จงไปเถอะ นำประชากรไปยังที่ซึ่งเราบอกแก่เจ้าแล้ว นี่แหละทูตของเราจะนำหน้าเจ้า แต่ว่าในวันนั้น เมื่อเราจะพิพากษาเขา เราจะลงโทษเขา”
  • 35 ฝ่ายพระเจ้าทรงบันดาลให้ภัยพิบัติเกิดขึ้นแก่ประชากร เพราะเหตุเขาทำรูปโคหนุ่มซึ่งอาโรนทำนั้น
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页