1
พระบัญญัติสิบประการ ( ฉธบ. 5:1-21 )พระเจ้าตรัสพระวจนะทั้งสิ้นต่อไปนี้ว่า2
“เราคือพระเจ้าของเจ้า ผู้ได้นำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์คือจากแดนทาส3
“อย่ามีพระเจ้าอื่นใดนอกเหนือจากเรา4
“อย่าทำรูปเคารพสำหรับตน เป็นรูปสิ่งใดซึ่งมีอยู่ในฟ้าเบื้องบน หรือบนแผ่นดินเบื้องล่าง หรือในน้ำใต้แผ่นดิน5
อย่ากราบไหว้หรือปรนนิบัติรูป เหล่านั้น อพย. 34:17; ลนต. 19:4; 26:1; ฉธบ. 4:15-18; 27:15 เพราะเราคือพระเจ้าของเจ้า เป็นพระเจ้าที่หวงแหน ให้โทษบิดาตกทอดไปถึงลูกหลานของผู้ที่ชัง เราจนถึงสามชั่วสี่ชั่วอายุคน6
แต่เราแสดงความรักมั่นคงต่อคนที่รักเรา และปฏิบัติตามบัญญัติของเรา หรือจำนวนหลายพัน คนจนถึงพันชั่วอายุ คน อพย. 34:6-7; กดว. 14:18; ฉธบ. 7:9-107
“อย่าออกพระนามพระเจ้าของเจ้าอย่างไม่ สมควร ลนต. 19:12 เพราะผู้ที่ออกพระนามพระองค์อย่างไม่สมควรนั้น พระเจ้าจะทรงถือว่าไม่มีโทษก็หามิได้8
“จงระลึกถึงวันสะบาโต คือ วันหยุดพัก (งาน) ถือเป็นวันบริสุทธิ์ อพย. 16:23-30; 31:12-149
จงทำการงานทั้งสิ้นของเจ้าหกวัน10
แต่วันที่เจ็ดนั้นเป็นสะบาโตของพระเจ้าของเจ้า ในวันนั้นอย่ากระทำการงาน ใดๆ อพย. 23:12; 31:15; 34:21; 35:2; ลนต. 23:3ไม่ว่าเจ้าเอง หรือบุตรชายบุตรหญิงของเจ้า หรือทาสทาสีของเจ้า หรือสัตว์ใช้งานของเจ้า หรือแขกที่อาศัยอยู่ในประตูเมืองของเจ้า11
เพราะในหกวันพระเจ้าทรงสร้างฟ้าและแผ่นดิน ทะเล และสรรพสิ่งซึ่งมีอยู่ในที่เหล่านั้น แต่ในวันที่เจ็ดทรงพัก เพราะฉะนั้นพระเจ้าทรงอวยพระพรวันสะบาโต และทรงตั้งวันนั้นไว้เป็นวันบริสุทธิ์ ปฐก. 2:1-3; อพย. 31:1712
“จงให้เกียรติแก่บิดามารดาของเจ้า ฉธบ. 27:16; มธ. 15:4; 19:19; มก. 7:10; 10:19; ลก. 18:20; อฟ. 6:2 เพื่ออายุของเจ้าจะได้ยืนนานบนแผ่นดิน ซึ่งพระเจ้าของเจ้าประทานให้แก่เจ้า อฟ. 6:313
“อย่าฆ่าคน ปฐก. 9:6; ลนต. 24:17; มธ. 5:21; 19:18; มก. 10:19; ลก. 18:20; รม. 13:9; ยก. 2:1114
“อย่าล่วงประเวณีผัวเมียเขา ลนต. 20:10; มธ. 5:27; 19:18; มก. 10:19; ลก. 18:20; รม. 13:9; ยก. 2:1115
“อย่าลักทรัพย์ ลนต. 19:11; มธ. 19:18; มก. 10:19; ลก. 18:20; รม. 13:916
“อย่าเป็นพยานเท็จใส่ร้าย เพื่อนบ้าน อพย. 23:1; มธ. 19:18; มก. 10:19; ลก. 18:2017
“อย่าโลภครัวเรือนของเพื่อนบ้าน รม. 7:7; 13:9 อย่าโลภภรรยาของเพื่อนบ้าน หรือทาสทาสีของเขา หรือโค ลาของเขา หรือสิ่งใดๆซึ่งเป็นของของเพื่อนบ้าน”ความกลัวของประชาชน 18
( ฉธบ. 5:22-33 ) คนทั้งหลายเมื่อได้ยิน ได้เห็นฟ้าร้อง ฟ้าแลบ เสียงแตร และควันที่พลุ่งขึ้นจากภูเขาเช่นนั้น ต่างก็ยืนตัวสั่นอยู่แต่ไกล19
เขาจึงกล่าวแก่โมเสสว่า “ท่านจงนำความมาเล่าเถิด พวกข้าพเจ้าจะฟัง แต่อย่าให้พระเจ้าตรัสกับพวกข้าพเจ้าเลย เกรงว่าข้าพเจ้าจะตาย” ฮบ. 12:18-1920
โมเสสจึงกล่าวแก่ประชาชนว่า “อย่ากลัวเลย เพราะว่าพระเจ้าเสด็จมาเพื่อลองใจท่านทั้งหลาย เพื่อพวกท่านจะได้ยำเกรงพระองค์ และจะได้ไม่ทำบาป”21
ประชาชนยืนอยู่แต่ไกล แต่โมเสสเข้าไปใกล้ความมืดทึบที่พระเจ้าทรงสถิตอยู่นั้น22
กฎหมายเกี่ยวกับแท่นบูชา พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “บอกชนชาติอิสราเอลดังนี้ว่า ‘เจ้าทั้งหลายได้เห็นแล้วว่า เราพูดกับพวกเจ้าจากท้องฟ้า23
เจ้าอย่าทำรูปเคารพด้วยเงิน ไว้สำหรับบูชาเทียมเท่ากับเรา หรือทำรูปพระด้วยทองคำสำหรับตัว24
จงใช้ดินก่อแท่นบูชาสำหรับเรา และบนแท่นนั้นจงใช้แกะและโคของเจ้าเป็นเครื่องเผาบูชา และเป็นศานติบูชาแก่เรา ในทุกตำบลที่เราให้ระลึกถึงนามของเรา เราจะมาหาเจ้าและอวยพรเจ้า25
ถ้าจะก่อแท่นบูชาด้วยศิลาสำหรับเรา อย่าก่อด้วยศิลาที่ตกแต่งแล้ว ฉธบ. 27:5-7; ยชว. 8:31 เพราะถ้าเจ้าใช้เครื่องมือตกแต่งศิลานั้น เจ้าก็จะทำให้ศิลานั้นเป็นมลทิน26
และอย่าขึ้นไปยังแท่นของเราทางบันได เพื่อจะได้ไม่เป็นที่อุจาดตา”